สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระทรวงพลังงานของสหรัฐ ระบุในรายงานว่า ผลผลิตน้ำมันต่อวันของรัฐเท็กซัสพุ่งสูงกว่า 3 ล้านบาร์เรลในเดือนเม.ย. เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษ 2513
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ผลผลิตน้ำมันของอิรักในเดือนเม.ย. อยู่ที่ 3.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน และลดลงแตะ 2.9 ล้านบาร์เรลในเดือนมิ.ย. เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยผลผลิตน้ำมันของอิรักจะต่ำกว่าของเท็กซัส หากอุปทานน้ำมันของรัฐยังคงปรับตัวขึ้นต่อไป หลังจากที่ผลผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นทุกเดือนตั้งแต่ปี 2554
EIA รายงานว่า ในขณะนี้ เท็กซัสผลิตน้ำมันได้ 36% ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมากกว่าผลผลิตน้ำมันในรอบ 3 ปีของรัฐเองถึง 3 เท่า โดยสหรัฐผลิตน้ำมันได้ 8.4 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนเม.ย.
นับตั้งแต่ปี 2550 สหรัฐอเมริกาตื่นตัวในการปฏิรูปการพัฒนาน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติด้วยการเทคโนโลยีใหม่สำหรับการขุดเจาะน้ำมันในชั้นหินดินดานที่เรียกว่า hydraulic fracturing
EIA ระบุว่า ณ สิ้นปี 2556 สหรัฐอเมริกาผลิตน้ำมันดิบได้เฉลี่ย 7.84 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งมากกว่า 10% ของผลผลิตน้ำมันทั้งหมดในโลก
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า สหรัฐอเมริกาจะเปลี่ยนสถานะจากผู้นำเข้าสุทธิเป็นผู้ส่งออกสุทธิภายในปี 2563 หลังจากที่ผลผลิตน้ำมันในชั้นหินแซงหน้าอุปสงค์น้ำมันในประเทศ โดยผลผลิตน้ำมันของสหรัฐกำลังเข้าใกล้อัตราที่เพียงพอที่ระดับ 90% อย่างรวดเร็ว
ด้านสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ในเดือนพ.ย. ปีที่ผ่านมาว่า สหรัฐอเมริกากำลังจะกลายเป็นผู้ผลิตน้ำมันอันดับหนึ่งของโลกภายในปี 2558 แซงหน้าบรรดาผู้ผลิตพลังงานชั้นนำในปัจจุบันอย่างรัสเซีย และซาอุดิอาระเบีย สำนักข่าวซินหัวรายงาน