IHS Inc. ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลด้านอุตสาหกรรมและการวิเคราะห์คาดว่า จีนจะกลายเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2567 เนื่องจากคาดว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคภายในประเทศจะเพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่าจากปี 2556 ในปี 2567
ISH เปิดเผยการคาดการณ์ดังกล่าวในข่าวประชาสัมพันธ์ว่า คาดว่าในปี 2567 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนจะอยู่ที่ 28.25 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งจะแซงหน้าสหรัฐที่ระดับ 27.31 ล้านล้านดอลลาร์ กลายเป็นเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
สัดส่วนในจีดีพีของโลกของจีนจะเพิ่มขึ้นจาก 12% ในปี 2556 เป็น 20% ในปี 2568 ISH ซึ่งมีฐานในรัฐโคโลราโดของสหรัฐระบุ
ราจีฟ บิสวอส หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคเอเชียของ ISH กล่าวว่า “ในช่วงอีก 10 ปีข้างหน้า คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะปรับสมดุลไปสู่การขยายตัวอย่างรวดเร็วของการบริโภค ซึ่งจะช่วยปรับโครงสร้างเศรษฐกิจภายในประเทศและช่วยให้ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกขยายตัว"
ในช่วงอีก 10 ปีถึงปี 2567 คาดว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคของจีนจะขยายคัวโดยเฉลี่ยที่ 7.7% ซึ่งจะกลายเป็นกลไกการขยายตัวของอุปสงค์ด้านการบริโภคและเศรษฐกิจโลกที่สำคัญ หรือในอีกนัยหนึ่ง การใช้จ่ายทั้งหมดของผู้บริโภคจีนจะขยายตัวจาก 3 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบันเป็น 11 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2567 ISH ระบุ
นายบิสวอสกล่าวว่า “การประชุมเศรษฐกิจโลกครั้งต่อไปในหัวข้อ Meeting of the New Champions in Tianjin, China จะเน้นไปที่วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม"
“จะมีหลายอุตสาหกรรมที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการช่วยเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจจากการส่งออกที่ผลักดันโดยต้นทุนต่ำในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมาไปสู่เศรษฐกิจที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งได้รับแรงผลักดันจากอุปสงค์ของผู้บริโภคภายในประเทศ" เขากล่าว
อย่างไรก็ดี แถลงการณ์ของ International Comparison Program เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาระบุว่า จีนมีแนวโน้มจะปแซงสหรัฐขึ้นเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกเร็วกว่าที่คาดไว้ โดยเร็วที่สุดในปีนี้ เมื่อคำนวณในแง่ความเสมอภาคของอำนาจซื้อ (purchasing power parity: PPP) สำนักข่าวซินหัวรายงาน