นอกจากนี้ สหภาพยุโรปยังได้สั่งอายัดทรัพย์และระงับการเดินทางของบุคคลอีก 24 ราย ซึ่งส่งผลให้ชาวรัสเซียและบุคคลที่ให้การสนับสนุนรัสเซีย ซึ่งถูกระงับการเข้าถึงสินทรัพย์ เพิ่มขึ้นเป็น 119 ราย ขณะที่มีบริษัทถูกขึ้นบัญชีดำเพิ่มขึ้นเป็น 23 แห่ง
สหภาพยุโรปยังได้ระงับข้อกำหนดที่มีกับรัสเซีย ในส่วนของบริการสำรวจน้ำมันชั้นแผ่นหิน เช่นเดียวกับการสำรวจและผลิตน้ำมันในน้ำลึกและมหาสมุทรอาร์กติก อีกทั้งเพิ่มมาตรการระงับการส่งออกสินค้าและเทคโนโลยีทางทหารและพลเรือน
ทั้งนี้ อียูมีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้รัสเซียยอมร่วมมือในประเด็นการบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิง ระหว่างกองทัพยูเครนและกองกำลังสนับสนุนรัสเซียทางตะวันออกของยูเครน และอาจมีการผ่อนคลายการคว่ำบาตรอย่างเร็วที่สุดในช่วงปลายเดือนก.ย. หากรัสเซียยอมให้ความร่วมมือเพื่อให้บรรลุสันติในภูมิภาค สำนักข่าวเกียวโดรายงาน