ธนาคารโลกระบุถึงภาวะเศรษฐกิจจีนว่า “มาตรการในการควบคุมหนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่น, จำกัดระบบธนาคารเงา และแก้ปัญหาศักยภาพที่มากเกินไป, อุปสงค์พลังงานที่ระดับสูงและมลภาวะที่รุนแรง จะส่งผลให้การลงทุนและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลง"
แต่นายซูดีร์ เชตตี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของธนาคารโลกกล่าวว่า “เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป และจะไม่ทรุดตัวลงรุนแรง" พร้อมกับเสริมว่าการขยายตัวที่ชะลอลงของเศรษฐกิจจีนจะไม่มีผลกระทบรุนแรงต่อประเทศอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ธนาคารโลกชี้ว่า หากเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงรุนแรง ซึ่งไม่มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้น ก็จะมีผลกระทบอย่างหนักต่อผู้ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ในภูมิภาค เช่น ผู้ส่งออกโลหะในมองโกเลียและผู้ส่งออกถ่านหินในอินโดนีเซีย
โดยทั่วไป เศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะขยายตัวในอัตรา 6.9% ในปี 2557 และ 2558 ซึ่งลดลงจาก 7.1% ที่ธนาคารคาดไว้ก่อนหน้านี้ และลดลงจากระดับ 7.2% ของปี 2556 ด้วย
นอกจากนี้ ธนาคารโลกยังปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของภูมิภาคในปี 2559 จาก 7.1% สู่ระดับ 6.8% สำนักข่าวซินหัวรายงาน