อังตัวเน็ตต์ ซาเยห์ ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคแอฟริกาของไอเอ็มเอฟ เปิดเผยต่อต่อมวลชน หลังจากที่ได้นำเสนอรายงานเศรษฐกิจประจำภูมิภาคแอฟริกาใต้สะฮาราในกรุงฮาราเร ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของทั้งสามประเทศนั้นคิดเป็นสัดส่วนเพียง 1% เมื่อเทียบกับทั้งทวีป ดังนั้นจึงไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจแอฟริกามากนัก ซึ่งทางไอเอ็มเอฟคาดว่าจะขยายตัว 5.8% ในปีหน้า จากระดับ 5% ในปีนี้
นอกจากนี้ นางซาเยห์ยังกล่าวด้วยว่า รายงานคาดการณ์การขยายตัวของไอเอ็มเอฟนั้น ครอบคลุมถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของเชื้ออีโบลา หากมีการยืดเยื้อไปถึงช่วงกลางปีหน้า
เมื่อพิจารณาจากสมมุติฐานว่าการแพร่ระบาดจะถูกควบคุมภายในเดือนมิ.ย.ของปีหน้านั้น ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไลบีเรียและเซียร์ราลีโอนจะหดตัวราว 4% ส่วนกินีจะหดตัวลง 1.5% ในปี 2557
นางซาเยห์ เน้นย้ำว่า เศรษฐกิจของทั้งสามประเทศข้างต้นจะขยายตัวในปีนี้ แม้ว่า "จะอยู่ในกรอบที่จำกัดกว่าที่คาด" โดยการขยายตัวนั้นจะได้รับแรงขับเคลื่อนจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วงต้นปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาด
เธอกล่าวว่า ภาคการเกษตร เหมืองแร่ และภาคบริการในสามประเทศนี้ ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของไวรัสอีโบลา ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างแกมเบีย และเซเนกัลประสบกับการหดตัวในภาคการท่องเที่ยว
สำหรับพื้นที่อื่นๆในแอฟริกานั้น คาดว่าผลกระทบจากอีโบลาจะยังคงอยู่ในระดับปานกลาง และจำกัดอยู่ในบริเวณศูนย์กลางทางการขนส่งประจำภูมิภาค เช่น กานา เคนยา และไนจีเรีย
สำนักข่าวซินหัวรายงาว่า อังตัวเน็ตต์ ซาเยห์ เป็นนักเศรษฐศาสตร์ชาวไลบีเรีย ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีการคลังเมื่อปี 2549-2551 ก่อนที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งในไอเอ็มเอฟ โดยเธอได้กล่าวทิ้งท้ายว่า "ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้ จะไม่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจแอฟริกาในภาพรวม" สำนักข่าวซินหัวรายงาน