เฉิง ข่า-ชุน ประธานบริษัท New World Development และสมาชิกคณะกรรมการถาวรของสภาที่ปรึกษาทางการเมืองของจีน (CPPCC) เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า การกระทำของกลุ่มผู้จัดการประท้วง Occupy Central Movement ที่เป็นการแลกผลประโยชน์ของประชาชนชาวฮ่องกงกับประชาธิปไตยนั้น ไม่มีความเป็นประชาธิปไตยเลย
นักธุรกิจรายนี้มองว่า นักศึกษาที่กำลังเดินขบวนบางส่วนกำลังถูกหลอกใช้ พร้อมเรียกร้องให้พวกเขาเปิดรับความจริงและถอนตัวออกจากพื้นที่ประท้วง
ลี กาชิง ประธานบริษัท Cheung Kong (Holdings) Limited ได้เรียกร้องให้ผู้ประท้วงเดินทางกลับบ้าน โดยได้ระบุในแถลงการณ์ว่า หากหลักนิติธรรมของฮ่องกงพังทลายลง ก็คงเป็นเรื่องที่ "น่าเสียใจอย่างสุดซึ่ง"
เขากล่าวว่า "ผมขอให้ทุกท่านเลิกก่อความปั่นป่วนและไม่เปิดโอกาสให้ความรู้สึกในวันนี้กลายเป็นความเสียใจในวันข้างหน้า"
ส่วนนักธุรกิจใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์อย่างนายลี เชา-กี ประธานบริษัท Henderson Land Development มองว่า การประท้วงนั้นเป็นการกระทำที่บ่อนทำลาย ซึ่งไม่ได้สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ ระบบการเงิน และความรุ่งเรืองทางสังคมของฮ่องกงเพียงอย่างเดียว แต่ยังส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ในระดับนานาชาติอีกด้วย
นายอู๋ กวง-ฉิง เจ้าของธุรกิจเคเบิลทีวีและบริษัท Star Ferry ชี้ว่า ขณะที่การประท้วงอันไม่ชอบด้วยกฎหมายได้เดินหน้าต่อไปในสักช่วงเวลาหนึ่ง เสรีภาพในการพูดของชาวฮ่องกงภายใต้กรอบ "หนึ่งประเทศ สองระบบ" ได้เป็นที่ปรากฎไปทั่วโลก แต่การบุกยึดท้องถนนด้วยการกระทำอันผิดกฎหมายนั้น จำเป็นต้องยุติลง
นักธุรกิจใหญ่รายนี้น้อมรับการหารือระหว่างสหพันธ์นักศึกษาและรัฐบาล แต่ได้ออกมาเตือนว่า หากเหล่านักศึกษายังคงปิดกั้นรัฐบาลในการดำเนินงานตามที่ควรจะเป็น ผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นอาจจะร้ายแรง สำนักข่าวซินหัวรายงาน