แถลงการณ์ของ ITC ระบุว่า กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐจะออกมาตรการจัดเก็บภาษีเพื่อป้องกันการทุ่มตลาดสำหรับการนำเข้าผลิตภัณฑ์เหล่านี้จากจีนและไต้หวัน เยอรมนี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสวีเดนภายหลังการยืนยันการตัดสินใจ นอกจากนี้ กระทรวงยังจะออกคำสั่งเรียกเก็บภาษีชดเชยในการนำเข้าผลิตภัณฑ์เหล่านี้จากจีนและไต้หวันอีกด้วย
เนื่องจากอุตสาหกรรมเหล็กกล้าของสหรัฐกำลังเผชิญกับสถานการณ์กำลังการผลิตที่สูงเกินไปจากทั่วโลกและมียอดขาดทุนสุทธิ 4 ปี ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ผู้ผลิตเหล็กกล้าของสหรัฐจึงหันไปพึ่งพามาตรการคุ้มครองทางการค้ามากขึ้น
เมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ประกาศผลการตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่า ผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากจีนและไต้หวันเหล่าและมีการจำหน่ายในตลาดสหรัฐในราคาทุ่มตลาดที่ 407.52%, 27.54% และ 52.23% ตามลำดับ ส่วนผลิตภัณฑ์จากเยอรมนี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสวีเดนมีช่วงราคาทุ่มตลาดในช่วง 6.88-204.79% สำนักข่าวซินหัวรายงาน