การเปิดเผยของผู้นำจีนมีขึ้น ในระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมสุดยอดผู้นำเขตเอเปก ซึ่งสามารถดึงนักธุรกิจเข้าร่วมกว่า 1,500 คนจาก 21 ประเทศสมาชิกเอเปก และ 17 ประเทศและเขตการปกครองอื่นๆ
ประธานาธิบดีจีนระบุว่า เศรษฐกิจจีนได้ปรับเปลี่ยนจากที่เคยมีอัตราการเติบโตที่มีความรวดเร็วสูง ไปสู่อัตราการเติบโตที่มีความรวดเร็วสูงถึงปานกลาง ส่วนโครงสร้างเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นและพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เศรษฐกิจได้รับแรงผลักดันเพิ่มขึ้นจากนวัตกรรม แทนที่ปัจจัยการผลิตและการลงทุน
สำหรับในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนขยายตัว 7.4% เมื่อเทียบรายปี โดยที่ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญๆปรับตัวในกรอบที่เหมาะสม
สี จิ้นผิงระบุว่า "ดุลยภาพใหม่" ของเศรษฐกิจจีนนั้น คือภาวะที่เศรษฐกิจยังสามารถขยายตัวได้อย่างน่าพึงพอใจ แม้ว่าจะมีภาวะชะลอตัวอยู่บ้าง นอกจากนี้ ยังหมายถึงการขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพและได้รับแรงหนุนโดยปัจจัยหนุนที่หลากหลายมากขึ้น" ซึ่งจะช่วยให้โครงสร้าง"ปรับตัวและพัฒนาดีขึ้น" ส่วนทางด้านรัฐบาลก็จะมี "ระบบบริหารที่พัฒนาให้รวดเร็วว่องไว และมีการกระจายอำนาจ" สำนักข่าวซินหัวรายงาน