รายงานระบุว่า การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญๆนับจากรายงานฉบับเดือนต.ค.นั้น ประกอบไปด้วย การปรับฐานของตลาดการเงิน ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงจนสังเกตได้ และสัญญาณที่เพิ่มขึ้นถึงความซบเซาในกิจกรรมต่างๆ
ไอเอ็มเอฟระบุว่า ความผันผวนที่เพิ่มขึ้นในตลาดการเงินเมื่อเร็วๆนี้ถือเป็นปัจจัยที่ช่วยเตือนเรื่องความเสี่ยงและการปรับฐานต่อที่อาจจะเกิดขึ้น ขณะเดียวกัน ข้อมูลล่าสุดยังเผยให้เห็นว่า อุปสงค์ของยูโรโซนซบเซาลง
สำหรับความเสี่ยงช่วงขาลงที่ระบุในรายงาน WEO เดือนต.ค.นั้น ยังคงมีนัยสำคัญอยู่ โดยสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศที่ตึงเครียดยิ่งขึ้น และการปรับฐานที่อาจจะเกิดขึ้นในตลาดการเงิน จะเป็นความเสี่ยงระยะสั้นที่สำคัญ สำหรับความเสี่ยงในด้านอื่นๆนั้น ประกอบไปด้วย ภาวะเงินเฟ้อระดับต่ำและภาวะเงินฝืดในยูโรโซน ตลอดจนแนวโน้มการขยายตัวในระดับต่ำ
ไอเอ็มเอฟระบุว่า ประเทศมหาอำนาจควรรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ด้วยการคงนโยบายทางการเงินในเชิงผ่อนคลายต่อไป เมื่อประเมินจากจีดีพีที่ยังคงแตกต่างกันมากและอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำมาก
ในส่วนของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่นั้น ควรมุ่งเน้นนโยบายเศรษฐกิจมหภาคต่อไป เพื่อสร้างกลไกในการรับแรงปะทะและความเปราะบางทางเศรษฐกิจ เพื่อเตรียมพร้อมสู่ภาวะแวดล้อมที่การระดมเงินจากภายนอกที่ตึงตัวมากขึ้น และมีความผันผวนสูงขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน