สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวว่า รัฐบาลได้ตัดสินใจขึ้นราคาน้ำมันที่มีค่าอ็อคเทนต่ำอีก 2,000 รูเปียห์ หรือประมาณ 0.16 ดอลลาร์ เป็น 8,500 รูเปียห์ต่อลิตร และขึ้นราคาน้ำมันดีเซลอีก 2,000 รูเปียห์ เป็น 7,500 รูเปียห์ต่อลิตร
นายโจโควี กล่าวว่า อินโดนีเซียต้องเผชิญกับทางเลือกที่ยากลำบากเป็นระยะๆ แต่อย่างไรก็ดี เราต้องเลือกและตัดสินใจ
การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังการหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และการประชุมร่วมกับกระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้อง
ผู้นำอินโดนีเซียกล่าวว่า รัฐบาลได้ตัดสินใจที่จะดึงเม็ดเงินอุดหนุนราคาเชื้อเพลิงไปสู่ภาคการผลิต ประเทศต้องการงบประมาณในการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค การศึกษา และสุขภาพ แต่เราก็มีงบประมาณไม่เพียงพอ เพราะงบประมาณจำนวนมากเหล่านี้ถูกดึงไปใช้ในการอุดหนุนราคาเชื้อเพลิง
เงินอุดหนุนเชื้อเพลิงคาดว่า จะสูงถึง 276 ล้านล้านรูเปียในปีหน้า ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนการใช้จ่ายทั้งหมดของภาครัฐประมาณ 15% นับเป็นภาระต่องบประมาณของประเทศ และยังทำให้เกิดภาวะขาดดุลการคลัง ในขณะที่อินโดนีเซียจำเป็นต้องกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐบาลเพื่อเพิ่มการขยายตัวของเศรษฐกิจและสวัสดิการสำหรับประชาชน