“เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีการฟื้นตัวปานกลาง ขณะที่การบริโภคของภาคเอกชนอยู่ในภาวะอ่อนแอ" สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยในรายงานรายเดือน ซึ่งแสดงความวิตกว่าการปรับอัตราภาษีขึ้น 3% สู่ระดับ 8% ยังคงส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ภายในประเทศ
รายงานดังกล่าวมีการเปิดเผยหลังจากนายอาเบะได้ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเพื่อจัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 14 ธ.ค. เพื่อประเมินเสียงสนับสนุนของผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งที่มีต่อนโยบาย “อาเบะโนมิกส์" ของเขา ซึ่งมุ่งเน้นในการผ่อนคลายทางการเงินขนานใหญ่และการใช้จ่ายด้านการคลังจำนวนมาก
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้ปรับลดการประเมินพื้นฐานเกี่ยวกับเศรษฐกิจลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนต.ค. โดยรายงานเมื่อเดือนที่แล้วระบุว่าเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวปานกลาง “ขณะที่มีภาวะอ่อนแรงในช่วงที่ผ่านมา"
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะรัฐมนตรีกล่าวว่า สัญญาณบ่งชี้ทางเศรษฐกิจได้เริ่มแสดงให้เห็นว่าการปรับขึ้นภาษีรอบแรกได้เริ่มส่งผลกระทบเชิงลบน้อยลง ดังนั้น รัฐบาลจึงไม่ได้ปรับลดมุมมองทางเศรษฐกิจในเดือนพ.ย.
ในรายงานล่าสุด รัฐบาลได้ปรับเพิ่มการประเมินเกี่ยวกับผลกำไรของภาคเอกชนเป็นครั้งแรกในรอบ 12 เดือน โดยระบุว่าผลกำไรดูเหมือนจะหยุดชะงักลงโดยรวม แต่กลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่มีการปรับตัวดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รัฐบาล “คาดว่าจะมีการฟื้นตัว" โดยได้รับแรงหนุนจากนโยบายเศรษฐกิจ แต่ “ควรให้ความสำคัญกับความเสี่ยงข่วงขาลงของเศรษฐกิจญี่ปุ่น เช่น ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ตกต่ำลง และภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจต่างประเทศ" สำนักข่าวเกียวโดรายงาน