"เราจะจับตาความเคลื่อนไหวในตลาดอย่างใกล้ชิด และจะดำเนินนโยบายจัดการหนี้สินอย่างเหมาะสม" นายเซโกเปิดเผยในการแถลงข่าว
นายเซโกปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือครั้งนี้ เนื่องจากเป็นการตัดสินใจของบริษัทเอกชน อย่างไรก็ตาม เขาเปิดเผยว่าญี่ปุ่นจะวางเป้าหมายไปสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจ ควบคู่กับการฟื้นฟูสถานะทางการคลัง
ทั้งนี้ มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือหนี้ของรัฐบาลญี่ปุ่นลง 1 ขั้น สู่ระดับ A1 จาก Aa3 โดยยังคงแนวโน้มอันดับมีเสถียรภาพ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวก่อนที่ญี่ปุ่นจะเริ่มต้นการรณรงค์หาเสียงอย่างเป็นทางการในวันนี้ สำหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 14 ธ.ค.
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ได้ประกาศเลื่อนการขึ้นภาษีบริโภคซึ่งกำหนดไว้ในเดือนต.ค. 2558 ไปเป็นเดือนเม.ย. 2560 การตัดสินใจดังกล่าวของผู้นำญี่ปุ่นยิ่งสร้างความสับสนว่า เมื่อใดแน่ที่ประเทศจะสามารถฟื้นฟูสถานะทางการคลังได้
สถานะทางการคลังของรัฐบาลญี่ปุ่นย่ำแย่ที่สุดในบรรดาประเทศมหาอำนาจทางอุตสาหกรรม โดยมีหนี้สาธารณะสูงกว่า 200% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) สำนักข่าวเกียวโดรายงาน