นายเซอร์เก เชเมซอฟ ผู้บริหารกลุ่มบริษัท Rostec ของรัฐบาลรัสเซีย กล่าวว่า "เริ่มตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ เรามีผลการดำเนินงานที่ดีมากในอเมริกาใต้ แอฟริกา และเอเชีย"
เขาเผยว่า การเจรจาต่างๆที่เกิดขึ้นทำให้มีความหวังว่า รัสเซียจะสามารถชดเชยความเสียหายในการส่งออกอาวุธอันเป็นผลจากการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกได้
นายเชเมซอฟระบุว่า ยอดส่งออกอาวุธของรัสเซียได้ปรับตัวลดลง โดยส่วนใหญ่เป็นการส่งออกอาวุธเบาสำหรับกีฬาและการล่าสัตว์ ซึ่งหลักๆส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาก่อนการคว่ำบาตร
Kalashnikov Concern บริษัทสัญชาติรัสเซียซึ่งผลิตปืนไรเฟิล Kalashnikov และส่งออกอาวุธพลเรือนราว 40% ไปยังสหรัฐ ถูกขึ้นบัญชีดำโดยสหรัฐนับตั้งแต่เดือนมี.ค.
"เราได้สูญเสียตลาดขนาดใหญ่มาก" นายเชเมซอฟกล่าว อย่างไรก็ตาม Rostec ได้พบตลาดใหม่ในปี 2557 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอียิปต์และอินเดีย และยังมีการทำสัญญาส่งออกอาวุธเบาไปยังไทยและอินโดนีเซียด้วย
นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เปิดเผยว่า รัสเซียได้จัดทำสัญญาค้าอาวุธเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ร่วมกับลูกค้าจากต่างประเทศนับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2557
ทั้งนี้ รัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกอาวุธอันดับหนึ่งของโลก จำหน่ายอาวุธเป็นมูลค่าราว 1.57 หมื่นล้านดอลลาร์ในต่างประเทศเมื่อปี 2556 โดยเป็นอาวุธปืน ขีปนาวุธ และเครื่องบินขับไล่ รัสเซียส่งออกอาวุธไปยัง 66 ประเทศ และได้ทำข้อตกลงความร่วมมือเชิงเทคนิคระดับกองทัพร่วมกับ 85 ประเทศ สำนักข่าวซินหัวรายงาน