ในการประชุมร่วมกันสามฝ่าย นายอาเบะผลักดันให้กลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ ซึ่งได้ประโยชน์จากการที่เงินเยนอ่อนค่า ทำการค้ากับบริษัทรับเหมาโดยเสนอราคาที่สูงขึ้นกว่าช่วงก่อนหน้า เพื่อให้บริษัทขนาดเล็กกว่าและเศรษฐกิจท้องถิ่นได้รับประโยชน์จากนโยบาย "อาเบะโนมิกส์"
นายซาดายูกิ ซากากิบาระ ประธานสหพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น (Keidanren) เปิดเผยหลังการประชุมว่า "เราจะพยายามอย่างที่สุดเพื่อปรับขึ้นค่าแรง รวมถึงเงินโบนัสและเงินสงเคราะห์ด้วย"
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าผู้ประกอบการรายอื่นๆ จะปฏิบัติตามที่นายอาเบะเรียกร้องหรือไม่ เนื่องจากเศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 2 จนถึงเดือนก.ย. หลังการปรับขึ้นภาษีการบริโภคเมื่อวันที่ 1 เม.ย. ส่งผลให้ทิศทางเศรษฐกิจในระยะสั้นไม่สดใสนัก
ทั้งนี้ สหภาพแรงงานรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นตัดสินใจขอขึ้นค่าแรงรายปี 2% หรือสูงกว่าการขึ้นค่าแรงมูลฐานในการเจรจาที่จะเริ่มขึ้นช่วงต้นปีหน้า ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้สำหรับปีนี้
อย่างไรก็ดี ความวิตกว่าการใช้จ่ายภาคเอกชนที่อ่อนแอหลังการขึ้นภาษี รวมถึงเงินเยนที่อ่อนค่าซึ่งส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าสูงขึ้น ได้สร้างแรงกดดันในเรื่องรายได้ โดยเฉพาะที่บริษัทขนาดเล็ก และอาจทำให้การขึ้นค่าแรงเป็นทางเลือกที่ยากลำบาก สำนักข่าวเกียวโดรายงาน