ในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (Global Economic Prospects) ครั้งล่าสุดนั้น ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2558 จะอยู่ที่ 3% ซึ่งลดลง 0.4% จากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนมิ.ย. ส่วนอัตราการขยายตัวในปี 2557 มีการประเมินไว้ที่ 2.6%
นายไอฮาน โคเซ ผู้อำนวยการฝ่ายแนวโน้มการพัฒนาของธนาคารโลกระบุว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2557 ขยายตัวน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากเศรษฐกิจในหลายประเทศมีการขยายตัวที่น่าผิดหวัง เช่น กลุ่มสหภาพยุโรป (อียู), ญี่ปุ่น, ละตินอเมริกา และประเทศตลาดเกิดใหม่ในยุโรป โดยเฉพาะรัสเซีย
ธนาคารโลกระบุว่า เศรษฐกิจโลกจะยังคงปรับตัวดีขึ้นในปี 2558 เพราะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่อ่อนแรงลง รวมทั้งความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ และอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่อยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตาม คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะยังคงเผชิญกับความเสี่ยงช่วงขาลง เช่น การค้าทั่วโลกที่ซบเซาต่อเนื่อง รวมทั้งความเป็นไปได้เกี่ยวกับภาวะผันผวนในตลาดการเงิน ขณะที่ประเทศรายใหญ่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในกรอบเวลาที่แตกต่างกัน, ราคาน้ำมันที่ตกต่ำส่งผลกระทบต่อกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน และมีความเสี่ยงเกี่ยวกับภาวะเงินฝืดในยูโรโซนหรือญี่ปุ่น
ทั้งนี้ ธนาคารโลกคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวรวดเร็วขึ้นสู่ระดับ 3.2% ในปี 2558 จากระดับ 2.4% ในปี 2557 หลังจากนั้นจะขยายตัวลดลงมาอยู่ที่ 3% ในปี 2559 และ 2.4% ในปี 2560
ธนาคารโลกประเมินว่าเศรษฐกิจจีนจะเติบโต 7.1% ในปี 2558 ซึ่งต่ำกว่าปี 2557 ที่ขยายตัว 7.4% และคาดว่าอัตราการขยายตัวจะชะลอลงมาอยู่ที่ 7% ในปี 2559 และ 6.9% ในปี 2060 เนื่องจากการปฏิรูปเชิงโครงสร้างของจีน เช่น การถอนมาตรการกระตุ้นด้านการคลังอย่างค่อยเป็นค่อยไป อาจจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ส่วนภูมิภาคยูโรโซน ซึ่งเผชิญภาวะเงินเฟ้อมาเป็นเวลานานนั้น ธนาคารโลกคาดว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคจะขยายตัว 1.1% ในปี 2558 ซึ่งสูงกว่าปี 2557 ที่ขยายตัว 0.8% และคาดว่าเศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับ 1.6% ในปี 2559 และปี 2560 นอกจากนี้ ธนาคารโลกคาดว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะขยายตัว 1.2% ในปี 2558 และ 1.6% ในปี 2559