ทั้งนี้ ในการประชุมเศรษฐกิจโลก หรือเวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรั่ม (WEF) ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ นายร็อกออฟได้กล่าวถึงความท้าทายต่างๆที่โลกกำลังเผชิญในปีนี้
ในส่วนของเศรษฐกิจสหรัฐนั้น นายร็อกออฟมองว่าจะมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งทั่วทุกภาคส่วน และคาดว่าการจ้างงานจะปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ค่าจ้างสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลบวกต่อประเทศอื่นๆ แต่ถ้าหากเศรษฐกิจยุโรปซบเซา และจีนเผชิญภาวะทรุดตัว ก็จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐเช่นกัน
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปี 2557 ขยายตัว 7.4% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ต่ำสุดในรอบ 24 ปี
ส่วนการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 4 ปี 2557 อยู่ที่ 7.3% ซึ่งเป็นอัตราเดียวกันกับช่วงไตรมาส 3
การขยายตัวของจีดีพีปี 2557 ต่ำกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ราว 7.5% เนื่องจากทางการจีนประสบปัญหาในการปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจมาสู่ทิศทางที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ท่ามกลางภาวะชะลอตัวของภาคที่อยู่อาศัย อุปสงค์ภายในประเทศที่อ่อนแรง และการฟื้นตัวอย่างเชื่องช้าของเศรษฐกิจโลก
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจจีนในปี 2558 ลงเหลือ 6.8% ซึ่งลดลง 0.3% จากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ พร้อมกับชี้ว่า ความไม่แน่นอนอย่างมากเกี่ยวกับแนวโน้มราคาน้ำมันในอนาคต และปัจจัยที่ฉุดราคาน้ำมันลงนั้น ทำให้มีความเสี่ยงครั้งใหม่ต่อแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลก