นายหลิวกล่าวว่า "เมื่อพิจารณาถึงกำลังการผลิตส่วนเกินในหลายภาคอุตสาหกรรมแล้ว มาตรการปรับลดดอกเบี้ยอาจทำให้เกิดกระแสเงินทุนจำนวนมากหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดหุ้น มากกว่าที่จะส่งเสริมเศรษฐกิจแท้จริง"
ผู้เชี่ยวชาญรายนี้เปิดเผยว่า ความเสี่ยงด้านเงินฝืดในจีนเกิดขึ้นจากอุปสงค์ที่หดตัวลง รวมถึงภาวะการผลิตส่วนเกิน ไม่ใช่ปริมาณเงินที่ไม่เพียงพอในระบบ ซึ่งแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงจากกรณีที่พบในตลาดที่มีการเติบโตเต็มที่แล้ว อย่างสหรัฐ
"มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้อยู่คนละขั้วกับการปฏิรูป" เขากล่าว "นโยบายการเงินปัจจุบันของจีนนั้นมีประสิทธิภาพในการหนุนอุปสงค์ผ่านการส่งเสริมการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน"
นายหลิวเชื่อว่า มาตรการกระตุ้นทุกรูปแบบควรเป็นวิธีการในการสร้างสมดุลระหว่างอัตราเติบโตและประสิทธิภาพของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจีนกำลังเผชิญกับ "ดุลยภาพใหม่" ที่มีการขยายตัวที่ช้าลง แต่มีคุณภาพมากขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน