ก.ล.ต.ระบุว่า การตรวจสอบดังกล่าวถือเป็นการตรวจตราตามปกติ และไม่ควรมีการตีความเป็นอย่างอื่น
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนดิ่งลงไปกว่า 7% ในวันที่ 19 ม.ค. เนื่องจากหุ้นบริษัทโบรกเกอร์และธนาคารพาณิชย์ร่วงลงอย่างหนัก โดยหุ้นกลุ่มโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ร่วงลงแตะฟลอร์ 10% ภายหลังจากที่ทางการจีนได้เพิ่มมาตรการในการกำกับดูแลการซื้อขายหุ้นด้วยมาร์จิ้น โดยก.ล.ต.ประกาศใช้มาตรการควบคุมการซื้อขายหุ้นด้วยมาร์จิ้นของบริษัทหลักทรัพย์รายใหญ่ 3 แห่งของจีน ซึ่งได้แก่ ซิติค ซิเคียวริตีส์, ไห่ตง ซิเคียวริตีส์ และกัวไถ่ จูหนาน ซิเคียวริตีส์ โดยก.ล.ต.ได้สั่งห้ามไม่ให้บริษัทหลักทรัพย์ทั้ง 3 แห่งนี้ทำการเปิดบัญชีมาร์จิ้นครั้งใหม่ในช่วงเวลา 3 เดือนข้างหน้า หลังจากบริษัทเหล่านี้ละเมิดกฎระเบียบด้านการระดมเงินทุนด้วยมาร์จิ้น
การประกาศใช้มาตรการดังกล่าวต่อบริษัทหลักทรัพย์ 3 แห่งนี้ ได้จุดปะทุให้เกิดความวิตกกังวลที่ว่า ก.ล.ต.จีนอาจพยายามควบคุมการพุ่งขึ้นของหุ้นที่ซื้อด้วยเงินที่กู้ยืมมา หลังจากยอดเงินกู้ด้วยมาร์จิ้นพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.08 ล้านล้านหยวน หรือ 1.74 แสนล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 13 ม.ค. จากระดับ 4 แสนล้านหยวน ณ สิ้นเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว