การยื่นงบประมาณดังกล่าวของปธน.โอบามาคาดว่าจะสร้างความขัดแย้งครั้งใหม่กับสภาคองเกรสที่มีพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก และมีนโยบายสนับสนุนภาคธุรกิจ โดยทางพรรคกล่าวหาปธน.โอบามาว่าจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญความเสี่ยงจากการขึ้นภาษี และเพิ่มการใช้จ่าย โดยละเลยการแก้ไขปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของงบประมาณ ซึ่งก็คือ การใช้จ่ายของรัฐที่เพิ่มขึ้นอย่างมากจากโครงการสวัสดิการของรัฐบาล
ทั้งนี้ ปธน.โอบามาต้องการเพิ่มการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน โดยนำรายได้มาจากการเก็บภาษีต่อกำไรของบริษัทสหรัฐที่ดำเนินกิจการในต่างประเทศ
งบประมาณดังกล่าว ซึ่งจะเริ่มใช้ตั้งแต่เดือนต.ค. จะส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐขาดดุล 4.74 แสนล้านดอลลาร์