กระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ออกแถลงการณ์ฉบับหนึ่งที่กล่าวหาว่า นักลงทุนได้เผชิญกับการขาดทุนจำนวนมากจากผลิตภัณฑ์ทางการเงินเชิงโครงสร้าง หรือที่รู้จักกันในชื่อหลักทรัพย์ residential mortgage-backed securities (RMBS) และตราสาร Collateralized Debt Obligations (CDO) ที่ S&P ให้อันดับเครดิตในระดับสูง ซึ่งทำให้เกิดการตีความที่ผิดจนนำไปสู่ความเสี่ยงด้านเครดิตของหลักทรัพย์ดังกล่าวในช่วงปี 2547-2550
“นอกจากนี้ ผู้บริหารของ S&P ยังเพิกเฉยต่อคำเตือนของบรรดานักวิเคราะห์อาวุโส ซึ่งเตือนให้บริษัทยกเลิกอันดับเครดิตที่ระดับสูงแก่ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ที่ไม่ได้ปรับตัวตามที่โฆษณา" เอริค โฮลเดอร์ อัยการสูงสุดได้กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้
“ในการยุติคดีความนี้ S&P ยอมรับว่า ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทไม่ได้ปรับลดอันดับสินทรัพย์ที่ปรับตัวย่ำแย่ เนื่องจากบริษัทมีความวิตกว่าการกระทำเช่นนั้นจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัท" นายโฮลเดอร์กล่าวเสริม
“ขณะที่กลยุทธ์นี้อาจช่วยเลี่ยงไม่ให้ S&P สร้างความผิดหวังแก่ลูกค้า แต่ก็ได้สร้างความเสียหายที่รุนแรงมากกว่าต่อเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้กิดวิกฤตการเงินที่เลวร้ายที่สุดนับแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำรุนแรง (Great Depression)"
ภายใต้เงื่อนไขของการยุติคดีความที่มีการประกาศเมื่อวานนี้ S&P จะจ่ายเงินครึ่งหนึ่งของจำนวนเงิน 1.38 พันล้านดอลลาร์ให้แก่รัฐบาลกลางสหรัฐ ส่วนเงินจำนวนที่เหลือจะมีการจ่ายให้กับ 19 รัฐและดิสตริค ออฟ โคลัมเบีย สำนักข่าวซินหัวรายงาน