รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่น มีพันธสัญญาระหว่างประเทศในการลดสัดส่วนยอดขาดดุลงบประมาณเบื้องต้นต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในแง่ตัวเลขภายในปีงบประมาณ 2558 จากระดับในปีงบประมาณ 2553 และจะกลับมาเกินดุลอีกครั้งภายในปี 2563
อย่างไรก็ตาม คาดว่าสัดส่วนยอดขาดดุลงบประมาณเบื้องต้นต่อจีดีพีจะอยู่ที่ 1.6% ในปีงบประมาณ 2563 แม้มีมุมมองบวกว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวกว่า 3.0% ในแง่ตัวเลข และกว่า 2.0% ในแง่ความเป็นจริง
สำหรับเป้าหมายของปีงบประมาณ 2558 นั้น สำนักงานคาดว่ารัฐบาลจะบรรลุเป้าได้ ขณะที่ประเมินว่าสัดส่วนดังกล่าวจะแตะ 3.3% ในปีงบประมาณที่เริ่มต้นในเดือนเม.ย.2558 ซึ่งลดลงครึ่งหนึ่งจาก 6.6% ในปีงบประมาณ 2553 ตามที่ให้พันธสัญญาไว้
การขาดดุลงบประมาณหมายความว่าประเทศจะไม่สามารถระดมเงินสำหรับการใช้จ่ายของรัฐบาล นอกเหนือไปจากการชำระหนี้ หากไม่มีการออกพันธบัตรใหม่ ขณะที่การปรับตัวดีขึ้นของดุลงบประมาณจะเป็นก้าวแรกที่สำคัญสู่การเสริมความแข็งแกร่งทางการคลัง
ทั้งนี้ ฝ่ายบริหารของนายอาเบะได้ให้คำมั่นที่จะปรับภาษีการบริโภคขึ้น 2% สู่ระดับ 10% ในเดือนเม.ย.2560 เพื่อรับมือกับค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการสังคมที่เพิ่มมากขึ้น ท่ามกลางสังคมผู้สูงวัยของญี่ปุ่น
ส่วนในประเด็นการใช้จ่ายนั้น รัฐบาลเตรียมจะชี้แจงแนวทางในการลดรายจ่ายก่อนที่จะมีการเปิดเผยรายละเอียดนโยบายทางเศรษฐกิจและการคลังในฤดูร้อนนี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน