รายงานดังกล่าวซึ่งมีชื่อว่า "The Great Plunge in Oil Prices: Causes, Consequences, and Policy Responses" นำเสนอมุมมองที่ครอบคลุมเรื่องสาเหตุและผลพวงสืบเนื่องทางเศรษฐกิจและการเงิน จากการปรับตัวลงของราคาน้ำมัน
ราคาน้ำมันที่ร่วงลงมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ประกอบด้วย อุปทานน้ำมันที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วจากแหล่งน้ำมันที่ไม่ปกติ การเปลี่ยนจุดยืนด้านนโยบายของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และอุปสงค์น้ำมันที่อ่อนแอลงทั่วโลก นับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2557-เดือนก.พ.2558 ราคาน้ำมันร่วงลงไปเกือบ 50%
เวิลด์แบงก์ระบุว่า ปัจจัยดังกล่าวยังได้รับแรงผลักดันจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และการผลิตน้ำมันในตะวันออกกลางที่ไม่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
นายโคชิค บาซู หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์และรองประธานอาวุโสของเวิลด์แบงก์ กล่าวว่า "ผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ลดลง ซึ่งมีต่อเศรษฐกิจโลกอาจส่งผลดีในระยะกลาง แม้ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันจะได้รับผลกระทบในด้านลบก็ตาม เนื่องจากราคาน้ำมันที่ร่วงลง บั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ซึ่งส่งออกน้ำมัน และอาจเป็นปัจจัยที่เพิ่มความผันผวนในตลาดเงิน" สำนักข่าวซินหัวรายงาน