แถลงการณ์จากนายหวาง หยี่ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของจีน นอกรอบการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ระบุว่า
-- จีนให้ความสำคัญต่อความความสัมพันธ์ที่มีร่วมกันกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (DPRK) จีนและเกาหลีเหนือนั้นเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันอีกทั้งมีรากฐานอันแข็งแกร่ง ซึ่งไม่สามารถบั่นทอนได้โดยปัญหาที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว จีนพร้อมที่จะสานความสัมพันธ์อันดีต่อไป ส่วนผู้นำทั้งสองประเทศจะพบปะเมื่อไรนั้นก็เป็นไปตามตารางการทำงานของแต่ละคน
-- โลกไซเบอร์ควรเป็นความร่วมมือระดับทวิภาคีครั้งใหม่ระหว่างจีนและสหรัฐ มากกว่าที่จะเปิดประเด็นโต้เถียงกัน โดยทั้งจีนและสหรัฐต่างมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นจำนวนมาก ซึ่งการยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์มีแต่จะก่อให้เกิดผลประโยชน์ร่วมกัน
-- จีนและรัสเซียเตรียมลงนามในข้อตกลงการดำเนินงานว่าด้วยแนวเขตเศรษฐกิจเส้นทางสายไหม (Silk Road Economic Belt) เพื่อส่งเสริมการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ และพัฒนาภูมิภาคฟาร์อีสเทิร์นของรัสเซีย รวมถึงโครงการทางรถไฟความเร็วสูง
จีนและรัสเซียจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาติสายตะวันออก และลงนามข้อตกลงสำหรับสายตะวันตก อีกทั้งยกระดับโครงการวิจัยและพัฒนาเครื่องบินโดยสารลำตัวกว้างที่มีระยะบินไกล
นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังมีแผนสานต่อความร่วมมือด้านการเงิน น้ำมัน และก๊าซ เช่นเดียวกับพลังงานนิวเคลียร์
-- รัฐบาลจีนเตรียมสานต่อความร่วมมือกับชาติแอฟริกันในสามประการด้วยกัน ได้แก่ อุตสาหกรรม สุขอนามัย ตลอดจนความมั่นคงและสันติ
นายหวางเปิดเผยว่า จีนพร้อมร่วมมือกันชาวแอฟริกันเพื่อก่อให้เกิดผลประโยชน์ร่วมกัน และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับชาติแอฟริกันต่อไป
-- จีนและอินเดียควรเดินหน้าสานต่อความสัมพันธ์ร่วมกัน เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้านพรมแดนที่ยืดเยื้อมาอย่างยาวนาน
ปัจจุบัน ทั้งสองประเทศได้มีการหันหน้าเจรจากันในประเด็นดังกล่าว และสถานการณ์ก็เริ่มเป็นไปในทิศทางที่ดี
ทั้งนี้ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ได้เดินทางเยือนอินเดียเป็นครั้งประวัติศาสตร์ ขณะที่นายกรัฐมนตรีนาเรนทรา โมดีของอินเดีย มีแผนเดินทางเยือนจีนในปีนี้ ซึ่งทางการจีนเชื่อว่าผู้นำอินเดียจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นทั้งจากรัฐบาลและประชาชนชาวจีน
-- จีนและแคนาดาได้บรรลุข้อตกลงในการออกวีซ่าของประชาชนจากสองประเทศนี้ โดยมีอายุวีซ่าสูงสุด 10 ปี มีผลบังคับใช้พรุ่งนี้เป็นต้นไป
ในปีที่ผ่านมา จีนได้บรรลุข้อตกลงยกเว้นวีซ่าหรือผ่อนคลายข้อกำหนดร่วมกับ 24 ประเทศ ซึ่งส่งผลให้ผู้ที่ถือหนังสือเดินทางจีนสามารถเดินทางได้กว่า 50 ประเทศและดินแดนโดยไม่ต้องขอวีซ่า