ข้อมูลดังกล่าวได้จากการประเมินความคิดเห็นของผู้บริหารระดับสูงราว 1,000 คนทั่วโลก โดยผลการสำรวจระบุว่า 2 ใน 3 ของบริษัทส่งออกรายใหญ่ในสหรัฐ กล่าวว่า การแข็งค่าของดอลลาร์ได้ส่งผลกระทบในด้านลบต่อธุรกิจของพวกเขา และเกือบ 1 ใน 4 ของบริษัทส่งออกรายใหญ่กล่าวว่า พวกเขาได้ปรับลดการใช้จ่ายด้านทุน อันเนื่องมาจากการแข็งค่าของดอลลาร์
นอกจากนี้ ผู้บริหารในหลายภาคส่วนทางธุรกิจ ตั้งแต่ธุรกิจก่อสร้างไปจนถึงเฮลธ์แคร์ ต่างก็กล่าวว่า การที่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆนั้น ถือเป็นความเสี่ยงที่ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ปัจจัยล่าสุดที่ทำให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นนั้น มาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาด นอกจากนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ยังเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลง 332.78 จุด หรือ 1.85% ปิดที่ 17,662.94 จุดเมื่อคืนนี้ด้วย