นอกจากจำนวนแรงงานที่ลดลงแล้ว สัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และความหวังเรื่องราคาสินค้าที่สูงขึ้นก็๋เป็นอีกปัจจัยที่น่าจะช่วยผลักดันให้มีการปรับขึ้นค่าแรง
ทาเคชิ ยามากุจิ นักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลียฺ เอ็มยูเอฟจี กล่าวว่า ค่าแรงในญี่ปุ่นน่าจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะแรงกดดันด้านอุปทานและอุปสงค์ในตลาดมากกว่าแรงกดดันจากฝั่งรัฐบาลที่ต้องการให้บริษัทปรับขึ้นค่าแรง
ทั้งนี้ การเจรจาเพื่อปรับขึ้นค่าแรงของญี่ปุ่นจะมีขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และจนถึงขณะนี้ได้มีการเจรจาว่า การขึ้นค่าแรงโดยรวมอาจจะอยู่ที่ระดับประมาณ 2.4% ในปีงบประมาณ 2558 ที่จะเริ่มขึ้นในเดือนเม.ย.นี้