เม็ดเงิน 5 ล้านล้านวอนที่อัดฉีดเพิ่มนี้ เป็นการขยายวงเงินสูงสุดนับตั้งแต่ธนาคารกลางเริ่มใช้โครงการดังกล่าวในปี 2537 โดยมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ภาคธนาคารปล่อยเงินกู้ให้กับธุรกิจขนาดเล็กในอัตราดอกเบี้ยต่ำ การใช้มาตรการในวงเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ดังกล่าวมีสาเหตุมาจากการชะลอตัวอย่างยาวนานของการลงทุนของภาคเอกชน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาวและมีความเป็นไปได้ที่อุปสงค์ภายในประเทศจะยังคงชะลอตัว
ทั้งนี้ เศรษฐกิจเกาหลีใต้มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นหลังจากธนาคารกลางปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ที่ 1.75% ในเดือนมี.ค. แต่ธุรกิจขนาดเล็กได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนเงินทุนสำหรับการลงทุนเนื่องจากภาคธนาคารไม่เต็มใจปล่อยเงินกู้ให้กับธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งมีความน่าเชื่อถือทางการเงินและหลักประกันที่ต่ำกว่าธุรกิจขนาดใหญ่
ภายใต้โครงการดังกล่าว ธนาคารกลางเกาหลีใต้ได้ปล่อยเงินเกินกู้ในเพดานอัตราดอกเบี้ยที่ 0.5-1.0% ให้กับภาคธนาคาร ซึ่งจะนำเม็ดเงินดังกล่าวไปปล่อยกู้ให้กับบริษัทขนาดเล็กในอัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างต่ำต่อไป สำนักข่าวซินหัวรายงาน