อาเซียน, อียู เตรียมเปิดการเจรจา FTA อีกครั้ง คาดพูดคุยสิ้นปีนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Sunday April 26, 2015 15:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เจ้าหน้าที่จากทั้งสองฝ่ายเปิดเผยว่า สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และสหภาพยุโรป เตรียมเปิดการเจรจาเพื่อจัดทำข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) อีกครั้งภายในสิ้นปีนี้ หลังจากที่ได้หยุดชะงักไปก่อนหน้า

เซซิเลีย มาล์มสตรอม กรรมาธิการการค้าประจำสหภาพยุโรป กล่าวภายหลังการประชุมระหว่างทั้งสองฝ่ายว่า "เราเห็นพ้องกันว่าภายในสิ้นปีนี้ จะมีการจัดการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสเพื่อดูความคืบหน้าในการผนวกรวมอาเซียน รวมถึงข้อตกลง FTA ระดับทวิภาคีและความคืบหน้าล่าสุดจากครั้งที่แล้ว อีกทั้งจัดการกับความยุ่งยาก ปัญหาท้าทาย และลำดับงาน เพื่อรายงานไปยังเหล่ารัฐมนตรีและดำเนินงานต่อไป"

อาเซียนและสหภาพยุโรปได้เริ่มเปิดการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีเมื่อปี 2550 แต่การเจรจาได้ชะงักลงหลังยุโรปคัดค้านการเป็นสมาชิกของเมียนมาร์ เนื่องด้วยปัญหาการฝ่าฝืนหลักสิทธิมนุษยชน เช่นเดียวกับความยุ่งยากที่เกิดขึ้นเนื่องจากอาเซียนนั้นมีความเหลื่อมล้ำด้านความก้าวหน้าของเศรษฐกิจของสมาชิกแต่ละประเทศ

นายลิม ฮง ฮิน รองเลขาธิการประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC เปิดเผยว่า สิ้นปีนี้เป็นเวลาอันสมควรในการเปิดการเจรจาดังกล่าวอีกครั้ง

เขาชี้ว่า ควรเปิดการเจรจา FTA ระดับภูมิภาคภายหลังการก่อตั้ง AEC อย่างเป็นทางการภายในสิ้นปีนี้

หลังจากที่อาเซียนและสหภาพยุโรปประสบกับความล่าช้าในการจัดทำข้อตกลง FTA ทางสหภาพยุโรปก็ได้เดินหน้าเจรจา FTA ระดับทวิภาคีร่วมกับสมาชิกอาเซียนแต่ละประเทศ ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย เวียดนาม ไทย และสิงคโปร์ โดยได้บรรลุข้อตกลงร่วมกับสิงคโปร์เมื่อปี 2555

ทั้งนี้ มูลค่าการค้าระหว่างอาเซียนและยุโรปได้ขยายตัวจากระดับ 2.426 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2555 เป็น 2.462 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2556 โดยข้อมูลเบื้องต้นจากทางฝั่งอาเซียนในปี 2557 ระบุว่า อาเซียนและยุโรปนั้นมีมูลค่าการค้าแตะ 2.482 แสนล้านดอลลาร์

ยุโรปเป็นคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของอาเซียน ขณะที่อาเซียนเป็นคู่ค้าที่ใหญ่เป็นอันดับสามของยุโรปรองจากสหรัฐและจีน

นอกจากนี้ ยุโรปยังคงเป็นที่มาของยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่มากที่สุดในอาเซียนสำหรับปี 2557 ด้วยมูลค่าทั้งสิ้น 2.91 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นสัดส่วน 21.3% ของยอด FDI ทั้งหมด ซึ่งพุ่งขึ้นถึง 30.5% เทียบรายปี สำนักข่าวเกียวโดรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ