IMF ระบุในรายงาน Post-Program Monitoring ฉบับที่สองว่า ยอดขาดดุลงบประมาณโดยรวมในปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 3.2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เนื่องจากการขาดมาตรการเพื่อลดการใช้จ่าย
ตัวเลขคาดการณ์ล่าสุดของ IMF สูงกว่าที่รัฐบาลโปรตุเกสได้ยืนยันก่อนหน้านี้ว่า โปรตุเกสจะสามารถทำให้ยอดขาดดุลงบประมาณลดลงมาอยู่ที่ 2.7% ของ GDP
นอกจากนี้ IMF ยังระบุด้วยว่า การดำเนินการปฏิรูปเชิงโครงสร้างต่อไปนั้นจะต้องอาศัยการขยายตัวในระยะกลางที่รวดเร็วขึ้น โดย IMF ระบุว่าความพยายามที่จะเดินหน้าปฏิรูปโครงสร้าง ด้วยการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ การให้สัมปทานการขนส่ง และลดราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับผู้บริโภคนั้นน่าพอใจ แต่โปรตุเกสยังขาดในส่วนของการเพิ่มประสิทธิภาพของภาคสาธารณะ
"การปฏิรูปตลาดแรงงานเพื่อกระตุ้นการสร้างงานยังคงเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะแรงงานระดับล่าง และแนวคิดริเริ่มใหม่ๆเพื่อปฏิรูปในด้านนี้นั้นเป็นที่ต้องการมาก" รายงานระบุ
ทั้งนี้ โปรตุเกสได้รับความช่วยเหลือทางการเงิน 7.8 หมื่นล้านยูโร (8.78 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากธนาคารกลางยุโรป (ECB) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ในปี 2554
โปรตุเกสกำลังดูแลสถานะการเงินของประเทศให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง และเผยว่าจะชำระเงินกู้ 2 พันล้านยูโร (2.3 พันล้านดอลลาร์) คืนให้กับ IMF ก่อนกำหนด โดยโปรตุเกสจ่ายคืน IMF ไปแล้ว 6.6 พันล้านยูโร (7.4 พันล้านดอลลาร์) ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา