นายกรูนวอลด์ได้แสดงความเห็นดังกล่าวในการประชุมซึ่งจัดขึ้นโดยศูนย์ข่าวต่างประเทศในนครนิวยอร์ก โดยกรูนวอลด์ได้กล่าวถึงความคืบหน้าของจีนในการผสานภาคการเงินภายในประเทศให้ความสอดคล้องกับระบบการเงินโลก ซึ่งส่งผลให้การหมุนเวียนของหนี้สินต่างประเทศปรับตัวสูงขึ้น การลงทุนโดยตรงในต่างประเทศมีการเติบโตขึ้น และมีการเปิดบัญชีทุนอย่างค่อยเป็นค่อยไป
นายกรูนวอลด์กล่าวอีกว่า แม้ว่าจีนจะเป็นอันดับหนึ่งของโลกในด้านเศรษกิจการค้าขาย แต่ภาคการเงินของจีนยังเป็นรองสหรัฐ และประเทศอื่นๆที่มีความก้าวหน้าทางด้านเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี จีนได้ถือโอกาสใช้สถานะความเป็นผู้ตามตอนนี้ให้เกิดประโยชน์โดยการศึกษาข้อบกพร่องในนโยบายของประเทศอื่นๆ
จากรายงานล่าสุดของนายกรูนวอลด์ในหัวข้อ "จีนจะตามทันสหรัฐหรือไม่ (Is China Catching the U.S)" แสดงข้อคิดเห็นว่า ภาพรวมของตลาดเกิดใหม่สะท้อนให้เห็นถึงตัวอย่างของประเทศที่ดำเนินเปิดตลาดการเงินเร็วเกินไป ซึ่งนำไปสู่การเกิดวิกฤตพร้อมๆกันทั้งในภาคธนาคารและวิกฤตเศรษฐกิจในต่างประเทศ และจะจบลงด้วยการกู้ยืมเงินจาก IMF การที่จีนเปิดระบบบัญชีทุนอย่างค่อยเป็นค่อยไปถือเป็นกลยุทธ์ที่ดี และส่งผลดีให้กับประเทศ"
ทั้งนี้ นายกรูนวอลด์กล่าวอีกว่า มีการใช้เงินหยวนในการใช้จ่ายระหว่างประเทศมากขึ้นในช่วงนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของจีนที่มีการเชื่อมต่อทางด้านการเงินกับประเทศอื่นๆมากขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน