ทางคณะกรรมการได้เปิดเผยรายงานดังกล่าวก่อนที่จะเข้ารับฟังถ้อยแถลงจากผู้บริหารของทาคาตะ หลังเกิดเหตุเรียกคืนรถยนต์ครั้งใหญ่ทั่วโลกที่มีความเกี่ยวข้องกับถุงลมนิรภัยแบรนด์ทาคาตะ ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 รายในสหรัฐอเมริกาและมาเลเซีย
รายงานดังกล่าวประกอบไปด้วยสำเนาเอกสาร รวมทั้งอีเมลภายในที่ทางคณะกรรมการพาณิชย์ วิทยาศาสตร์ และการคมนาคมได้รวบรวมไว้
อีเมลฉบับหนึ่งเมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2554 ระบุว่า "การตรวจสอบความปลอดภัยทั่วโลกได้ยุติลงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องด้วยเหตุผลทางการเงิน จะมีก็แต่การตรวจสอบในท้องถิ่นเท่านั้น" ส่วนชื่อผู้ส่งและผู้รับถูกขีดทับไว้
ด้วยข้อความนี้ประกอบกับข้อความอื่นๆ รายงานจึงสรุปว่า อีเมลที่ทางคณะกรรมการได้ตรวจสอบนั้นบ่งชี้ว่า "เนื่องด้วยเหตุผลทางการเงิน" การตรวจสอบความปลอดภัยทั่วโลกของทาคาตะจึงชะงักลงเมื่อปี 2552-2554
วุฒิสมาชิกที่เป็นคณะกรรมการจะดำเนินการเรียกตัวผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนายเควิน เคนเนดี รองประธานบริหารของบริษัททีเค โฮลดิงส์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของทาคาตะ ในสหรัฐ เพื่อเข้ามาชี้แจงรายละเอียด
ก่อนหน้านี้ ทางคณะผู้บริหารของทาคาตะได้แถลงต่อสภาคองเกรสสามครั้งด้วยกัน ถึงเหตุเรียกคืนที่สูบลมถุงลมนิรภัยของบริษัท
สำหรับอุบัติเหตุที่มีสาเหตุจากการทำงานผิดพลาดของถุงลมนิรภัยทาคาตะนั้น ที่สูบลมได้แตกออกและปล่อยเศษโลหะกระจายทั่วภายในรถยนต์ ซึ่งอาจร้ายแรงถึงชีวิต โดยทางทาคาตะยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุของปัญหาได้
ทั้งนี้ สำนักงานความปลอดภัยทางการจราจรบนทางหลวง ภายใต้สังกัดกระทรวงคมนาคมสหรัฐเปิดเผยว่า เหตุเรียกคืนรถยนต์นี้ครอบคลุมค่ายยานยนต์ 11 ราย และรถยนต์ราว 34 ล้านคันในสหรัฐ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน