สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่าจีดีพีในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2558 ขยายตัว 7% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นอัตราเดียวกับช่วงไตรมาสแรก และปรับตัวขึ้น 1.7% จากไตรมาสก่อนหน้านี้
อัตราการขยายตัวดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 6.9% สำหรับไตรมาสที่ 2
นายเบรนแดน เอเฮิร์น หัวหน้าฝ่ายเจ้าหน้าที่การลงทุนของ Kraneshares ซึ่งเป็นบริษัทด้านกองทุนของสหรัฐ กล่าวว่า "ข้อมูลเศรษฐกิจที่เปิดเผยนั้น เป็นตัวบ่งชี้ด้านบวกว่า เศรษฐกิจจีนเริ่มปรับตัวดีขึ้น"
ด้านนายฉู หงปิน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอชเอสบีซีกล่าวว่า "จีดีพีไตรมาส 2 ปรับตัวดีขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ และปัจจัยที่หนุนการขยายตัวมากที่สุดดูเหมือนเป็นภาคบริการ"
ส่วนนางซง ยู่ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากโกลด์แมน แซคส์กล่าวว่า การขยายตัวเกิดขึ้นเป็นวงกว้าง โดยจีดีพีอุตสาหกรรมขั้นปฐม ขั้นทุติยภูมิ และขั้นตติยภูมิ ทั้งหมดดีดตัวขึ้นตามลำดับต่อเนื่องกัน"
ทั้งนี้ นายเอเฮิร์นกล่าวว่า อัตราการขยายตัวที่ 7.5%, 7% หรือ 6.5% ถือเป็นสิ่งที่ดีในสายตาประเทศเศรษฐกิจอื่นๆ โดยการขยายตัวที่ดีที่สุดคือยอดค้าปลีกที่มีการขยายตัวสูงถึง 10.6% ซึ่งบ่งชี้ว่าการใช้นโยบายระยะยาวส่งผลดีต่อการเพิ่มการบริโภคภายในประเทศ
นอกจากนี้ นายเอเฮิร์นคาดว่า การกลับสู่สมดุลของจีนจะใช้เวลาหลายปี ซึ่งจะผ่านทั้งช่วงสูงสุดและช่วงต่ำสุด เนื่องจากเป้าหมายถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อไม่นานนี้ ส่งผลดีต่อจีนยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีดตัวขึ้น และมีโอกาสที่จะขยายตัวแข็งแกร่งขึ้นอีก
ส่วนนักวิเคราะห์รายอื่นเชื่อมั่นเช่นกันว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนจะดำเนินต่อไป ด้วยความช่วยเหลือจากนโยบายรัฐบาล สำนักข่าวซินหัวรายงาน