นายหยู ได้แสดงความคิดเห็นดังกล่าวในระหว่างเข้าเยี่ยมชมเขตอุตสาหกรรมไทย-จีน ที่จังหวัดระยอง โดยในระหว่างการเยี่ยมชม นายหยูได้รับทราบเกี่ยวกับการพัฒนาของเขตอุตสาหกรรมดังกล่าว พร้อมทั้งยังได้ตรวจสอบเวิร์คช็อปของบริษัทหลายแห่ง
นายหยูกล่าวอีกว่า เขาได้ให้ความสนใจในด้านการออกสู่สากลของบริษัทเอกชนจีนเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทด้านการผลิต และหวังว่าบริษัทต่างๆ ดังกล่าวจะได้ถือบทบาทสำคัญในเขตอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง
ด้านนายหวัง ลี่เฉิง ประธานคณะกรรมการบริหารของบริษัทฮอลลี่ กรุ๊ป กล่าวว่า ด้วยยอดการลงทุนกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เขตอุตสาหกรรมแห่งนี้สามารถดึงดูดบริษัทจีนกว่า 66 แห่งให้เข้ามาลงทุนในตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทเอกชน บริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์และจักรยานยนต์ บริษัทเครื่องจักรและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ บริษัทพลังงานใหม่ และบริษัทวัสดุใหม่
นอกจากนี้ นายหวังกล่าวว่า เขตอุตสาหกรรมดังกล่าวได้สร้างโอกาสในการทำงานให้แก่ชาวจีนกว่า 1,000 ราย และชาวไทยกว่า 10,000 ราย พร้อมกับกล่าวว่า การเติบโตของเขตอุตสาหกรรมสำหรับบริษัทจีนที่ลงทุนในต่างประเทศถือเป็นตัวขับเคลื่อนให้โครงการเส้นทางเศรษฐกิจ Belt and Road สามารถดำเนินไปอย่างราบรื่น โครงการ Belt and Road เป็นเครือข่ายด้านการค้าและสาธารณูปโภค ซึ่งรวมถึงโครงการเศรษฐกิจสายไหม (Silk Road Economic Belt) และเส้นทางสายไหมทางทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 (21st Century Maritime Silk Road) ซึ่งจีนได้ริเริ่มขึ้นเมื่อปี 2556 โดยเครือข่ายดังกล่าวเชื่อมต่อกับภูมิภาคเอเชีย และยุโรป รวมทั้งเชื่อมผ่านประเทศและภูมิภาคต่างๆกว่า 60 แห่ง ซึ่งมีประชากรรวมกันราว 4.4 พันล้านคน สำนักข่าวซินหัวรายงาน