การประชุมระยะเวลา 4 วันว่าด้วยการก่อตั้งข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ซึ่งริเริ่มโดยสหรัฐ บนเกาะเมาวีของฮาวายนั้น ถูกมองว่าเป็นโอกาสครั้งสุดท้ายในการสรุปข้อตกลงภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากสหรัฐและบางประเทศนั้นมีตารางทางการเมืองที่ค่อนข้างแน่น
ความคาดหวังเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงในฮาวายได้เพิ่มมากขึ้น หลังประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ ได้ลงนามในร่างกฎหมายการค้าแบบ fast-track หรือที่รู้จักกันว่าอำนาจในการส่งเสริมด้านการค้า (TPA) โดยร่างกฎหมายดังกล่าวให้อำนาจแก่ปธน.โอบามาในการทำข้อตกลงการค้าเสรีภาคพื้นแปซิปิกและข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศอื่นๆ ขณะที่จำกัดการแทรกแซงจากสมาชิกสภานิติบัญญัติ
ปธน.โอบามา ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นการกีดกันอำนาจของจีนในการชี้นำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
การเจรจาระหว่างสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด โดยคิดเป็นสัดส่วนราว 80% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของกลุ่ม TPP ดูมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะผสานความแตกต่างกัน แต่ก็ยังมีเรื่องที่ยากลำบากในการสรุปข้อตกลงระดับทวิภาคีในการเปิดตลาดข้าวญี่ปุ่น รวมถึงการยกเลิกภาษีนำเข้าจากฝั่งสหรัฐสำหรับชิ้นส่วนยานยนต์
นายอากิระ อามาริ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและนโยบายการคลังญี่ปุ่น มีกำหนดการพบปะกับนายไมเคิล โฟรแมน ผู้แทนการค้าจากสหรัฐ นอกรอบการประชุมใหญ่เพื่อหารือในประเด็นการค้าข้าวและยานยนต์
นายอามาริเปิดเผยว่า เป็นเรื่องยากที่จะสรุปประเด็นที่เหลือทั้งหมดกับสหรัฐภายในวันเดียว โดยเขามีแผนพบปะกับนายโฟรแมนอีกหลายครั้งระหว่างการประชุมที่ฮาวาย
ทั้งนี้ ข้อตกลง TPP ซึ่งจะครอบคลุมผลผลิตราว 40% ทั่วโลก ประกอบไปด้วยออสเตรเลีย บรูไน แคนาดา ชิลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ เปรู สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกาและเวียดนาม สำนักข่าวเกียวโดรายงาน