“เมื่อพิจารณาภายในประเทศแล้ว การเติบโตที่ 7% ไม่ใช่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 35 ปีของการปฏิรูปและการเปิดกว้างในจีน เราควรมองว่าเป็นการขยายตัวที่ระดับปานกลาง-สูง"
นายเฉินกล่าวว่า การเติบโต 7% เป็นผลของการปรับเชิงโครงสร้างและตามวงจรในเศรษฐกิจจีน โดยยังคงสูงว่าอัตราการขยายตัวที่ไม่ถึง 4% ในปี 2532-2533 ซึ่งเป็นช่วง 2 ปีของการปรับเปลี่ยนตามวงจร
“เมื่อพิจารณาทั่วโลก อัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ 7% ของจีนถือว่าแย่กว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับอินเดีย ซึ่ง GDP คิดเป็นราว 1 ใน 5 ของจีน แต่ก็ยังสูงกว่าการขยายตัวของประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่รายอื่นๆ"
เขากล่าวว่า การเติบโตของ GDP ที่ 7% ในช่วงครึ่งปีแรก จะสามารถยั่งยืนได้ เนื่องจากการปฏิรูปและการเปิดกว้างของจีน, นวัตกรรม, การยกระดับทางเศรษฐกิจ ตลอดจนนโยบายเศรษฐกิจมหภาค จะยังคงกระตุ้นการขยายตัว
นักเศรษฐศาสตร์รายนี้กล่าวเสริมว่า ทางการจีนยังมีเครื่องมือด้านนโยบายมากมายที่จะส่งเสริมการขยายตัว ขณะที่หนี้สินของประเทศที่ระดับต่ำจะทำให้สามารถขยายการลงทุนได้ผ่านทางการออกพันธบัตร และอัตราเงินฟ้อที่ต่ำจะส่งผลให้มีโอกาสในการผ่อนคลายทางการเงิน