นายหยู ฉิวเหม่ย นักสถิติที่ NBS กล่าวว่า สาเหตุหลักที่ทำให้ดัชนี CPI เดือนก.ค.ปรับตัวขึ้น คือราคาเนื้อหมูที่แพงขึ้น นอกจากนี้ ค่าบริการทางการแพทย์ ราคาผัก งานบ้าน ยาสูบ และการศึกษา ปรับตัวขึ้นเช่นกัน
ในวันเดียวกัน NBS เผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของจีน ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อระดับค้าส่ง ร่วงลง 5.4% เมื่อเทียบรายปี ในเดือนก.ค. ซึ่งมากกว่าที่ลดลง 4.8% ในเดือนมิ.ย. สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเงินฝืด
ตัวเลขเดือนก.ค.นับเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เมื่อช่วงปลายปี 2552 และลดลงเป็นเดือนที่ 41 ติดต่อกันแล้ว
--สำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยว่า มูลค่าการค้าต่างประเทศของจีนปรับตัวลดลง 7.3% เมื่อเทียบรายปี แตะระดับ 13.63 ล้านล้านหยวน (2.23 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้
โดยการส่งออกในช่วงเวลาดังกล่าวขยับลง 0.9% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 7.75 ล้านล้านหยวน ขณะที่การนำเข้าร่วงลง 14.6% แตะ 5.88 ล้านล้านหยวน ส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าพุ่งขึ้นสองเท่าสู่ระดับ 1.87 ล้านล้านหยวนในช่วงเดือนม.ค.-ก.ค.
-- ธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยในรายงานนโยบายการเงินประจำไตรมาส 2 ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันศุกร์ว่า ปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 ซึ่งครอบคลุมเงินสดหมุนเวียนและเงินฝากทั้งหมดนั้น ขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วขึ้นในไตรมาส 2 และคาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนจะดำเนินมาตรการอย่างรอบคอบและปรับปรับนโยบายให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป เพื่อสร้างภาวะแวดล้อมทางการเงินที่นำไปสู่การปรับโครงสร้างและพัฒนาเศรษฐกิจจีนต่อไป
-- ธนาคารกลางจีนเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนปรับตัวลงสู่ระดับ 3.6513 ล้านล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนก.ค. โดยลดลง 4.25 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 สำนักข่าวซินหัวรายงาน