นายวิโดโดกล่าวกล่าวว่า ช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวยเป็นปัญหาของประเทศเช่นกัน
"รัฐบาลยอมรับมีปัญหามากมายทับถมเราอยู่ จนถึงขณะนี้ ความไร้เสถียรภาพของราคาอาหารยังคงอยู่ การฉ้อโกงยังไม่หายไป และการบังคับใช้กฎหมายยังคงอ่อนแอ" ผู้นำอินโดนีเซียกล่าว
นายวิโดโดซึ่งปฏิบัติหน้าที่ประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 20 ต.ค. ได้ปรับเปลี่ยนตำแหน่งรัฐมนตรีเศรษฐกิจหลัก 4 คน และรัฐมนตรีด้านความมั่นคง โดยแต่งตั้งให้นักวิชาการที่ได้รับความนับถือขึ้นดำรงตำแหน่งสำคัญด้านเศรษฐกิจ
ปธน.อินโดนีเซียเสริมว่า "การเปลี่ยนแปลงคณะรัฐมนตรีซึ่งผมดำเนินการไปเมื่อไม่นานนี้ มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของรัฐบาล เพื่อให้การเร่งการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น"
สำนักงานสถิติแห่งชาติของอินโดนีเซียระบุว่า เศรษฐกิจอินโดนีเซียขยายตัวต่ำที่สุดในรอบ 6 ปีในไตรมาสแรกและไตรมาสที่ 2 ของปีที่อัตรา 4.71% และ 4.67% ตามลำดับ
ปธน.วิโดโดได้จัดสรรงบเพื่อการพัฒนาด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน ด้วยการตัดเงินอุดหนุนเชื้อเพลิง และลดงบประมาณรายจ่ายของเจ้าหน้าที่
นอกจากนี้ ผู้นำอินโดนีเซียยังพยายามปรับกระบวนการออกใบอนุญาตการลงทุนให้ยุ่งยากน้อยลง ต่อสู้กับการคอรัปชั่น และดำเนินการปฏิรูปอื่นๆ เพื่อดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศ
ทั้งนี้ นายวิโดโดตั้งเป้าการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไว้ที่ 7% ในช่วงสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี 5 ปี สำนักข่าวซินหัวรายงาน