10 ประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ร่วมกับจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย ซึ่งได้มีการเจรจาข้อตกลงการเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจแบบเบ็ดเสร็จในภูมิภาค (RCEP) มานับตั้งแต่ปี 2556 ได้ประสบกับความยุ่งยากในประเด็นรูปแบบการลดภาษี (modality) มาจนถึงปัจจุบัน
"ประเด็นที่ใหญ่ที่สุดซึ่งเราได้มีข้อตกลงร่วมกันวันนี้ได้แก่ข้อตกลงด้านรูปแบบการลดภาษี" นายมุสตาปา โมฮาเหม็ด รัฐมนตรีกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมระหว่างประเทศของมาเลเซีย กล่าวภายหลังการประชุมระดับรัฐมนตรี พร้อมเสริมว่า "ผมมองว่าเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่"
บรรดารัฐมนตรีการค้ามีมติว่า เมื่อมีการบังคับใช้กฎใหม่แล้วจะไม่มีการเรียกเก็บภาษีสำหรับรายการสินค้าเป็นสัดส่วน 65% และใน 10 ปีจะขยายเป็น 80%
"ส่วนรายละเอียดนั้นน่าจะสรุปได้ภายในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้" นายโมฮาเหม็ดกล่าว "เรามีจุดยืนเพื่อให้ข้อตกลง RCEP สามารถสรุปได้เสร็จสิ้นภายในปลายปีนี้ ขณะนี้ยังคงมีประเด็นทางเทคนิคบางประการที่จำเป็นต้องสรุปให้ได้ในปี 2559 โดยเราต้องยึดกับความเป็นจริง แม้ว่าแผนที่กำหนดไว้แต่เดิมนั้นมีกำหนดการเสร็จสิ้นภายในปี 2558 แต่วันนี้เราทราบว่าปัญหาบางอย่างอาจต้องยืดเวลาต่อไป ซึ่งเป็นเพียงปัญหาเล็กๆน้อยๆเท่านั้น"
สำหรับปัญหาที่พบในการเจรจานั้นเกิดขึ้นเนื่องจากบางประเทศไม่มีการทำข้อตกลงการค้าเสรีระดับทวิภาคีร่วมกัน เช่น ญี่ปุ่นและจีน หรือจีนและอินเดีย
ทางคณะกรรมการเจรจาข้อตกลงการค้ามีกำหนดการประชุมร่วมกันอีกครั้งวันที่ 12-16 ตุลาคมนี้ที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้
"เราหวังว่าเมื่อถึงเวลาประชุมที่เมืองปูซานในเดือนต.ค.นี้ ประเทศต่างๆจะมีการแลกเปลี่ยนข้อเรียกร้องและข้อเสนอ" นายมุสตาปากล่าว โดยเขาคาดหวังว่าข้อตกลงนี้จะสามารถสรุปได้ในช่วงกลางปี 2559
ทั้งนี้ ข้อตกลง RCEP ถูกมองว่าเป็นข้อตกลงการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก เนื่องจากครอบคลุมประชากรถึงครึ่งหนึ่งของโลก โดยมีผลผลิตรวมกันถึง 22.7 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2557 คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 30% ของเศรษฐกิจโลก สำนักข่าวเกียวโดรายงาน