ตลาดทั่วโลกมีกระแสวิตกต่อความเกี่ยวเนื่องระหว่างการอ่อนค่าของเงินหยวนและความพยายามของจีนในการกระตุ้นการส่งออก
อย่างไรก็ตาม กระทรวงเปิดเผยว่า การปรับตัวลดลง 4.6% ในช่วง 3 วันหลังจากที่ได้ปรับระบบเมื่อวันที่ 11 ส.ค.นั้น เป็นการปรับเปลี่ยนตามปกติ ซึ่งจะส่งผลกระทบในวงจำกัดต่อการค้าระหว่างประเทศ
นับตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว อัตราค่ากลางเงินหยวนกับอัตราซื้อขายสปอตมีความแตกต่างกันอย่างมาก โดยอัตราค่ากลางใหม่นี้ช่วยลดช่องว่างดังกล่าว และเปิดโอกาสให้ตลาดเข้ามามีบทบาทยิ่งขึ้นในการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวน
เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ธนาคารกลางจีนได้กำหนดให้อัตราค่ากลางอ้างอิงรายวันซึ่งรายงานต่อ China Foreign Exchange Trade System ก่อนตลาดเปิดทำการนั้น ควรอ้างอิงกับระดับปิดของตลาดปริวรรตเงินตราอินเตอร์แบงก์ในวันก่อนหน้า รวมถึงอุปสงค์ อุปทาน และการเคลื่อนไหวด้านราคาของสกุลเงินอื่นๆ
หลังจากที่ร่วงลง 4.6% ในช่วง 3 วันหลังจากนั้น อัตราค่ากลางเงินหยวนเทียบดอลลาร์ก็เริ่มทรงตัว
แถลงการณ์ระบุว่า ผลกระทบจากการปรับอัตราแลกเปลี่ยนที่มีต่อการส่งออกของจีนนั้นจะอยู่ในวงจำกัด เนื่องจากราวครึ่งหนึ่งนั้นเป็นอุตสาหกรรมการค้าเพื่อการแปรรูป (Processing Trade) โดยจีนนำเข้าวัตถุดิบและประกอบใหม่เพื่อส่งออกต่อไป