รายงานระบุว่า ผลผลิตเหล็กดิบในเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 1.7% แตะที่ 66.94 ล้านตัน แต่ลดลง 3.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และปรับตัวลง 2% แตะที่ 543.02 ล้านตันในช่วง 8 เดือนแรกของปี
การขยายตัวเมื่อเทียบรายเดือนแสดงให้เห็นว่า การเพิ่มขึ้นของผลผลิตในพื้นที่อื่นๆของจีนได้ช่วยชดเชยการปิดโรงงานผลิตในมณฑลเหอเป่ย ซึ่งเป็นพื้นที่ผลิตเหล็กกล้าที่สำคัญ โดยทางการจีนได้สั่งให้โรงงานผลิตปิดดำเนินงานเพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศในกรุงปักกิ่ง ก่อนพิธีสวนสนามฉลองการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2
โรงถลุงเหล็กกล้าภายในประเทศยังคงเผชิญกับความต้องการเหล็กที่ลดลง เนื่องจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงรุนแรง
ขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมเหล็กทั่วโลกยังเผชิญกับปริมาณการส่งออกที่สูงเป็นประวัติการณ์ของจีนซึ่งส่งผลให้อุปทานในตลาดโลกอยู่ในระดับสูงเกินไป หลังสำนักงานศุลกากรของจีนเปิดเผยยอดส่งออกในเดือนส.ค.ที่ใกล้เคียงกับระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้เมื่อเดือนม.ค.และเพิ่มขึ้น 25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งส่งผลให้โรงถลุงเหล็กทั่วโลกพยายามปรับลดกำลังการผลิตลง