ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวระบุว่า จะมีการออกรายงานการลงทุนที่ไม่เปิดเสรี (negative list) ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงข้อจำกัดในธุรกิจและการลงทุนบางประเภท และจะมีการผ่อนปรนการควบคุมบางประการ อีกทั้งยังมีการเพิ่มการตรวจตราในธุรกิจบางประเภท
ภาคการบริการเช่น ภาคการเงิน การศึกษา วัฒนธรรม และสาธารณสุข จะเปิดกว้างให้บริษัทลงทุนต่างชาติเข้าถึงได้มากขึ้น ในขณะเดียวกันก็จะมีการยกเลิกการควบคุมด้านการดูแลเด็กและผู้สูงอายุ การออกแบบสถาปัตยกรรม การบัญชี การตรวจสอบบัญชี โลจิสติกส์ และอี-คอมเมิร์ซ อีกทั้งจีนจะสนับสนุนให้มีการเปิดกว้างด้านอุตสาหกรรมการผลิตมากขึ้น
ทั้งนี้ จีนจะผลักดันให้ภาคอื่นๆ มีการเปิดกว้างมากขึ้น โดยเป็นส่วนหนึ่งของการปรับสมดุลย์ทางเศรษฐกิจ
นายจาง หยานเชิง เลขาธิการใหญ่ของสำนักงานอธิการบดีเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ เปิดเผยว่า จีนต้องการที่จะสร้างบรรยากาศทางธุรกิจที่มีความมั่นคง เปิดกว้าง และโปร่งใสเพื่อดึงดูดเงินทุน ความสามารถ และเทคโนโลยีเพื่อเร่งการปรับโครงสร้าง
ในขณะเดียว แนวทางดังกล่าวระบุว่า รัฐบาลต้องการยกระดับการลงทุนในต่างประเทศ
บริษัทต่างๆ จะได้รับการสนับสนุนให้ลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐาน พลังงาน และทรัพยากรทั่วโลก ส่วนบริษัทที่เกี่ยวกับภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลประโยชน์ต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมด้านรถไฟความเร็วสูง พลังงานนิวเคลียร์ และเครื่องจักรนั้น จะได้รับการผลักดันทั่วโลก สำนักข่าวซินหัวรายงาน