นายดรากีกล่าวในการแถลงรายไตรมาสต่อรัฐสภายุโรปว่า “ECB จะไม่ลังเลที่จะดำเนินการ หากความเสี่ยงช่วงขาลงส่งผลให้แนวโน้มเงินเฟ้อในระยะกลางอ่อนแอลงมากกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ในปัจจุบัน"
ขณะเดียวกัน เขาส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ในการปรับขนาด องค์ประกอบและระยะเวลาของโครงการซื้อสินทรัพย์ของ ECB เพื่อเพิ่มแรงกระตุ้นด้านนโยบายการเงิน หากจำเป็น
ในการหารือนโยบายการเงินครั้งที่ 3 นั้น นายดรากีกล่าวว่า ปัจจัยชี้วัดทางเศรษฐกิจได้ส่งสัญญาณของความยืดหยุ่นในช่วงฤดูร้อน แต่ภาวะแวดล้อมด้านเศรษฐกิจมหภาคมีความท้าทายมากขึ้น
“การคาดการณ์ด้านเศรษฐกิจมหภาคในเดือนก.ย.ของเราบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการปรับตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อชะลอลงมากกว่าที่คาดไว้ในช่วงต้นปีนี้" เขากล่าว โดยระบุว่าสาเหตุสำคัญคือการขยายตัวที่ชะลอลงในกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ ยูโรที่แข็งค่าขึ้น รวมทั้งราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ที่อ่อนแอลง
ทั้งนี้ ประธาน ECB กล่าวว่า มาตรการทางการเงินที่ดำเนินการในปัจจุบันยังคงส่งผลดีต่อต้นทุนและสินเชื่อสำหรับบริษัทต่างๆและภาคครัวเรือน โดยระบุว่ามาตรการดังกล่าวได้หนุนอุปสงค์ของภาคครัวเรือนสำหรับสินค้าคงทน และกระตุ้นการลงทุนของกลุ่มบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก