ริโอเปิดเผยว่า ทางบริษัทได้ส่งออกแร่เหล็ก 91.3 ล้านตันในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย. ขณะที่การผลิตเพิ่มขึ้น 12% แตะที่ 86.1 ล้านตัน
ขณะเดียวกัน ริโอได้ส่งสิแนร่เหล็กจากโรงงานผลิตของบริษัทที่อยู่ในประเทศออสเตรเลียและแคนาดา 4 ล้านตัน และ 1 ล้านตัน ตามลำดับ เพื่อกระตุ้นยอดขาย
ก่อนหน้านี้ ริโอไม่สามารถบรรลุเป้าการผลิต 350 ล้านตันได้ในช่วงต้นปี 2558 เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เป็นไปตามฤดูกาล รวมถึงพายุหมุน 2 ลูกที่เกิดขึ้นใกล้กับเหมืองแร่ของบริษัทในออสเตรเลีย เช่นเดียวกับบริษัทคู่แข่งอย่างบีเอชพี บิลลิตัน และเวล ในบราซิล
ริโอ ทินโต มียอดการผลิตเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาแร่เหล็กที่ร่วงลงด้วยความพยายามที่จะป้อนตลาดโลก ซึ่งถือเป็นสถานการณ์ที่จะบีบให้ผู้ผลิตที่มีต้นทุนสูงขึ้นออกจากตลาด
อุปทานสินแร่เหล็กที่ล้นตลาดส่งผลให้ราคาแร่เหล็กลดลงจากระดับสูงถึงเกือบ 200 ดอลลาร์สรัฐ/ตัน ในปี 2554 สู่ระดับราคาที่ต่ำกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐภายใน 2 ปี ตามการคาดการณ์ ราคาสินแร่เหล็กในตลาดสปอตวันนี้อยู่ที่ 53.20 ดอลลาร์/ตัน