นายสีกล่าวว่า สาระสำคัญของการประชุมครั้งนี้คือ "วิสัยทัศน์ใหม่แห่งถนนสายไหม การดำเนินการเพื่อพัฒนาร่วมกัน" ซึ่งถือเป็นจุดเด่นสำคัญที่สามารถสร้างผลประโยชน์ได้จริง
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีจีนได้เปิดตัวแนวคิดริเริ่มโครงการพื้นที่และเส้นทางเศรษฐกิจของจีน (Belt and Road Initiative ) ซึ่งรวมถึงโครงการเส้นทางสายไหมทางเศรษฐกิจ (Silk Road Economic Belt) และโครงการเส้นทางสายไหมทางทะเลศตวรรษที่ 21 (21st Century Maritime Silk Road) เมื่อปี 2557
โครงการดังกล่าวจะเป็นการรวมตัวของบรรดาประเทศในเอเชีย ยุโรป หรือแม้กระทั่งแอฟริกา โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อการยกระดับการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน การร่วมมือกันทางการเงิน และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างภูมิภาค
นายสีกล่าวว่า การเร่งก่อสร้างโครงการเส้นทางสายไหม Belt and Road จะนำความมั่งคั่งและการร่วมมือกันทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคมาสู่ประเทศต่างๆ ตลอดเส้นทาง พร้อมทั้งระบุด้วยว่า โครงการดังกล่าวจะเป็นการยกระดับการแลกเปลี่ยนอารยธรรมที่แตกต่างกัน เป็นการยกระดับสันติภาพโลก และเป็นการยกระดับการพัฒนาอีกด้วย
นายสีเชื่อว่า การประชุมดังกล่าวจะเป็นการเร่งพัฒนาโครงการ Belt and Road และเป็นการพัฒนาร่วมกันของบรรดาประเทศต่างๆ ตลอดเส้นทางดังกล่าว
ข้อมูลจากสถิติจีนระบุว่า ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ การค้าระหว่างจีนและบรรดาประเทศต่างๆ ตลอดเส้นทางสายไหม Belt and Road มียอดสุทธิอยู่ที่กว่า 5.70 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ สำนักข่าวซินหัวรายงาน