อย่างไรก็ตาม นายฟลินท์ชี้ว่าอาจต้องใช้เวลาสักสองสามทศวรรษ กว่าเงินหยวนจะเข้ามามีบทบาทเป็นเงินตราที่ใช้เป็นทุนสำรองระดับโลกอย่างที่เงินดอลลาร์และยูโรมีอยู่ในขณะนี้
นายฟลินท์เปิดเผยว่า เขารู้สึกตื่นเต้นที่ทั่วโลกมีธุรกิจที่ใช้เงินหยวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยชี้ว่าการรวมสกุลเงินหยวนของจีนไว้ในตะกร้าสกุลเงิน SDR (Special Drawing Right) จะบ่งชี้ถึงการเติบโตอย่างเต็มที่ของเงินหยวน
นอกจากนี้ นายฟลินท์ กล่าวว่า "โดยทั่วไปแล้ว สกุลเงิน SDR มักสะท้อนถึงการเติบโตของสกุลเงิน ซึ่งเรื่องนี้สมควรให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง หลังจากการค้าของจีนที่ใช้และชำระด้วยเงินหยวนนั้นมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ขณะที่ทั่วโลกเริ่มใช้เงินหยวนเป็นสกุลเงินในการลงทุน"
เขาเสริมว่า ปัจจุบันธนาคารกลางของประเทศต่างๆได้หันมาทำสัญญาแลกเปลี่ยนเงินตราแบบชั่วคราว (swap line) กับธนาคารกลางจีนมากขึ้น ขณะที่ผู้จัดการทุนสำรองเริ่มหันไปอาศัยเงินหยวนในแผนบริหารจัดการทุนสำรองของตนเช่นกัน
ทั้งนี้ นายฟลินท์กล่าวว่า "ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตและความเชื่อมั่นที่มีต่อเงินหยวน ดังนั้นผมจึงมองว่าการเปิดเสรีเงินหยวนเต็มรูปแบบนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง และมีศักยภาพที่จะเป็นสกุลเงินสำคัญสกุลที่สามของโลกถัดจากดอลลาร์และยูโร" สำนักข่าวซินหัวรายงาน