กลุ่มประเทศพัฒนายังคงเมินเฉยต่อข้อเรียกร้องของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่ต้องการให้กลุ่มประเทศพัฒนา ช่วยเพิ่มเงินทุนสนับสนุนหลังปี 2563 ซึ่งเป็นปีที่ข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ จากเดิมที่กลุ่มประเทศพัฒนาแล้วได้ตกลงตั้งฐานเงินทุนไว้ที่ 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ในปี 2552 จนถึงปี 2563
ทั้งนี้ แม้ว่ากลุ่มประเทศพัฒนาแล้วได้ยอมรับว่า การให้เงินทุนสนับสนุนแก่กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเป็นสิ่งจำเป็น แต่กลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วต่างพยายามที่จะใช้ภาษาที่คลุมเครือในเอกสารข้อตกลง โดยการไม่ระบุตัวเลขเงินทุนที่จะสนับสนุน
นายท็อดด สเติร์น เจ้าหน้าที่พิเศษด้านสภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงของสหรัฐกล่าวว่า "การเจรจาครั้งดังกล่าวเป็นการเจรจาแบบถ่ายทอดสดและเปิดกว้าง" พร้อมทั้งกล่าวว่า สหรัฐได้ตกลงที่จะเพิ่มเงินทุนสนับสนุนหลังปี 2563 แต่ไม่ได้ระบุว่า เงินทุนที่ถูกยกระดับนั้น เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเท่าใด
นายอัลเดน เมเยอร์ ผู้อำนวยการด้านยุทธศาสตร์และนโยบายของสหภาพนักวิทยาศาสตร์เพื่อสิ่งแวดล้อม "ขณะนี้ ประเทศเหล่านั้นต่างไม่เต็มใจที่จะยอมรับจำนวนเงินทุนมูลค่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ พวกเขาต่างพยายามที่จะปฏิเสธและไม่ต้องการที่จะระบุตัวเลขในข้อตกลงดังกล่าว"
นอกจากนี้ สหภาพยุโรปก็พยายามหลีกเลี่ยงการพูดถึงเงินจำนวน 1 แสนล้านดอลลาร์ดังกล่าวด้วยเช่นกัน โดยนางซาราห์ เบลา หัวหน้าตัวแทนจากสหภาพยุโรปได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า เงินทุนสนับสนุนหลังปี 2563 จะขึ้นอยู่กับ"ผลการดำเนินงานของเราในช่วงก่อนปี 2563" สำนักข่าวซินหัวรายงาน