ปธน. อู เต่ง เส่ง ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานหน่วยงาน Central Working Body ด้วยนั้นเปิดเผยต่อบริษัทที่ปรึกษา ผู้ยื่นประมูล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องว่า โครงการ SEZ มีความสำคัญในด้านการติดต่อเชื่อมโยง ไม่แค่เฉพาะสำหรับเมียนมาร์เท่านั้น แต่ยังสำหรับภูมิภาคอาเซียนด้วย เนื่องจากมีตำแหน่งที่ตั้งทางยุทธศาสตร์บนเส้นทางนานาชาติในภูมิภาคติดชายฝั่งทะเล
โครงการ SEZ ทั้ง 3 ประกอบด้วย เขตเศรษฐกิจเจ้าผิว (Kyaukphyu SEZ) ในรัฐยะไข่ ซึ่งอยู่ในระหว่างดำเนินการประมูล เขตเศรษฐกิจพิเศษติละวา (Thilawa SEZ) ในเขตย่างกุ้ง และเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย (Dawei SEZ) ในเขตตะนาวศรี ที่กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการจัดตั้ง
ทั้งนี้ เขตเศรษฐกิจพิเศษติละวาได้รับความสนใจจากนักลงทุนญี่ปุ่น ขณะที่นักลงทุนไทยได้รับสัมปทานลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย
บริษัทต่างชาติทั้งหมด 48 แห่งลงทุนมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวา ซึ่งรายงานระบุว่าเป็นเขตเศรษฐกิจที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของเมียนมาร์
ส่วนโครงการระยะแรกในเศรษฐกิจพิเศษทวายกำลังดำเนินการโดยบริษัทโรแลนด์ เบอร์เจอร์ บริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ชั้นนำระดับโลก ที่มีสำนักงานใหญ่ในเมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี