อย่างไรก็ดี นายไฟน์แมนระบุว่าตัวเลขดังกล่าวถูกบิดเบือนจากข้อมูลของธ.กรุงศรีอยุธยาที่สูงเป็นพิเศษอันเนื่องจากการควบกิจการ ซึ่งหากไม่นับรวมธ.กรุงศรีอยุธยา และธ.กรุงไทยแล้ว ภาคธนาคารของไทยจะมีการขยายตัวตั้งแต่ต้นปี 2.4% เทียบกับตัวเลขคาดการณ์ของนายไฟน์แมนที่ 2.1%
นายไฟน์แมนวิเคราะห์ว่า ถึงแม้ภาคธนาคารของไทยมีการขยายตัวของสินเชื่อมากกว่าที่เขาคาดไว้ แต่การเติบโตในเดือนพ.ย.เกิดจากการพุ่งขึ้นของสินเชื่อประเภทเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้น (Working Capital Loans) เครดิต สวิสจึงมองว่าตัวเลขดังกล่าวจะไม่เปลี่ยนแปลงมุมมองของทางบริษัทไปมากนัก เนื่องจากสินเชื่อดังกล่าวให้ผลตอบแทนต่ำ และมีกำหนดใช้คืนในไม่ช้า
นายไฟน์แมนให้ความเห็นว่าธ.กรุงเทพ และธ.ทหารไทยมีโอกาสมากที่สุดที่จะมีการขยายตัวของสินเชื่อมากกว่าที่เขาคาดไว้ โดยมีการขยายตัวของสินเชื่อตั้งแต่ต้นปี 3.7% และ 9.6% ตามลำดับ เทียบกับที่เครดิต สวิสประเมินไว้ที่ 2.5% และ 7.5% ตามลำดับ
นายไฟน์แมนเชื่อว่าข้อมูลสินเชื่อในขณะนี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมุมมองพื้นฐานที่ว่าแนวโน้มการขยายตัวของสินเชื่อของภาคธนาคารไทยสำหรับปี 2559 ยังคงซบเซา และหากการส่งออกและการบริโภคไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ภาคธนาคารก็จะขาดปัจจัยเร่งสำหรับการขยายตัว