Spotlight: มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านล่าสุดสะท้อนนโยบายปฏิปักษ์ของสหรัฐในตะวันออกกลาง

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 19, 2016 14:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านครั้งล่าสุด แสดงให้เห็นว่า สหรัฐนั้นมีจุดยืนที่เป็นปฏิปักษ์ต่อตะวันออกกลางแบบหยั่งรากลึกแม้ว่า จะได้มีการดำเนินการตามข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์เรื่องโครงการนิวเคลียร์อิหร่านไปแล้วก็ตาม

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สหรัฐประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่ออิหร่าน เนื่องจากการทดสอบขีปนาวุธเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา เพียงวันเดียวหลังจากที่นานาชาติได้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านตามข้อตกลงนิวเคลียร์ และเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อิหร่านก็ได้ประณามมาตรการคว่ำบาตรครั้งล่าสุดของสหรัฐอันเนื่องมาจากการต่อต้านโครงการขีปนาวุธของอิหร่านว่า เป็นการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

สำนักข่าวอิสนา รายงานว่า นายฮอสไซน์ เจเบอร์ อันซารี โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน กล่าวว่า โครงการขีปนาวุธของอิหร่านไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อยิงอาวุธนิวเคลียร์แต่อย่างใด มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐต่อโครงการขีปนาวุธของอิหร่าน จึงผิดกฎหมายและสวนทางกับคุณธรรม

คว่ำบาตรครั้งล่าสุดภายหลังการแลกเปลี่ยนตัวนักโทษ

รายงานข่าวชี้ว่า มาตรการครั้งล่าสุดนี้ สหรัฐได้เลื่อนการใช้มาตรการคว่ำไปเป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์ เนื่องจากความกังวลที่ว่า มาตรการเข้มงวดครั้งใหม่อาจจะส่งผลกระทบต่อการเจรจาต่อรองเรื่องการแลกเปลี่ยนตัวนักโทษกับอิหร่านได้

ชู หยิน รองศาสตราจารย์ฝ่ายกิจการต่างประเทศของมหาวิทยาลัยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กล่าวกับสำนักข่าวซินหัวว่า สหรัฐไม่ต้องการให้มาตรการคว่ำบาตรครั้งล่าสุดนี้ ส่งผลกระทบด้านลบต่อการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์

ภายใต้ข้อตกลงเรื่องการแลกเปลี่ยนตัวนักโทษระหว่างสหรัฐและอิหร่านนี้ ชาวอเมริกันที่ถูกอิหร่านกักตัวไว้ได้รับอิสรภาพ 5 รายเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ในขณะที่ชาวอิหร่าน 7 รายที่ถูกตั้งข้อหาหรือถูกตัดสินว่าละเมิดมาตรการคว่ำบาตรก็ได้รับการยกโทษจากทางสหรัฐ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกัน

อย่างไรก็ดี การแลกเปลี่ยนตัวนักโทษครั้งนี้ เกิดขึ้นภายหลังจากที่สหรัฐได้ประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่

แถลงการณ์ของกระทรวงคลังสหรัฐระบุว่า ชาวอิหร่าน 6 รายและบริษัทสัญชาติอิหร่าน 11 บริษัทได้ถูกขึ้นบัญชีดำโดยทางการสหรัฐเพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการขีปนาวุธ

แถลงการณ์ระบุว่า การดำเนินการดังกล่าวสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของรัฐบาลสหรัฐที่ยังคงพุ่งเป้าไปยังที่บุคคลที่ช่วยสนับสนุนอิหร่านในเรื่องโครงการขีปนาวุธ

อดัม ซูบิน รักษาการหน่วยข่าวกรองด้านก่อการร้ายและการเงิน ย้ำว่า สหรัฐจะใช้มาตรการคว่ำบาตรกับกิจกรรมของอิหร่านที่อยู่นอกเหนือข้อตกลงนิวเคลียร์อย่างเต็มที่

นอกเหนือไปจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการขีปนาวุธแล้ว การดำเนินการใดๆที่เกี่ยวโยงกับการสนับสนุนการก่อการร้าย การทำลายเสถียรภาพในภูมิภาค และการกดขี่ในเรื่องสิทธิมนุษยชนของอิหร่าน ล้วนตกเป็นเป้าหมายของการคว่ำบาตรของสหรัฐ

ส่วนในการกล่าวสุนทรพจน์เรื่องอิหร่านที่ทำเนียบขาวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ ให้คำมั่นว่าจะดำเนินการอย่างเต็มที่กับพฤติกรรมทำลายเสถีรภาพ เนื่องจากยังมีความแตกต่างอย่างลึกซึ้งระหว่างทั้ง 2 ประเทศ

การสร้างความสมดุลนโยบายตะวันออกกลาง

หนึ่งในตัวอย่างของความแตกต่างของสหรัฐและอิหร่าน ได้แก่ มาตรการที่ได้มีการประกาศใช้ล่าสุดนั้นเห็นได้ชัดว่า เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของสหรัฐที่จะรักษาสมดุลเรื่องนโยบายตะวันออกกลาง เนื่องจากความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่กับอิหร่านนำมาซึ่งความซับซ้อนในด้านสถานการณ์ระดับภูมิภาคมากยิ่งขึ้น

โอบามา กล่าวสุนทรพจน์ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ทั่วประเทศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า สหรัฐจะไม่ยอมยกเว้นเรื่องการปกป้องความมั่นคงของประเทศหรือความมั่นคงของประเทศพันธมิตรของเรา

เมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา อิหร่านได้ประกาศเรื่องการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลชื่อ Emad ซึ่งสามารถควบคุมได้จนกว่าขีปนาวุธจะโจมตีเป้าหมายด้วยความแม่นยำระดับสูง

รายงานของผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติเมื่อเดือนธ.ค.ระบุว่า อิหร่านได้ละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชชาติด้วยการทดสอบยิงขีปนาวุธดังกล่าว ซึ่งสามารถยิงหัวรบนิวเคลียร์ได้ ส่งผลให้สหรัฐใช้มาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่ต่ออิหร่าน

นายจู หลิน นักวิจัยของวิทยาลัยสังคมศาสตร์จีน กล่าวว่า ด้วยความพยายามที่จะสกัดความสามารถในการโจมตีระยะไกลของอิหร่าน สหรัฐได้พยายามปกป้องประเทศพันธมิตรในตะวันออกกลาง โดยสหรัฐระมัดระวังและเตรียมพร้อมในระดับสูงต่อการพัฒนาอาวุธที่มีความแม่นยำสูงของอิหร่าน

นายจูยังกล่าวด้วยว่า มาตรการครั้งใหม่นี้แตกต่างไปจากมาตรการก่อนหน้านี้ เพราะพุ่งเป้าไปที่ขีปนาวุธอิหร่านภายใต้มีเป้าหมายที่จะจำกัดการดำเนินการด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ