"ในความเห็นของผม การที่ตัวแทนจากซีเรียเดินทางมาที่ Palais des Nations และเริ่มการหารือร่วมกับเรา ถือเป็นการเปิดฉากการเจรจาในกรุงเจนีวาอย่างเป็นทางการ" นายเดอ มิสทูรากล่าว
การประชุมดังกล่าวหลายครั้งซึ่งมี UN เป็นคนกลางนั้นมีกำหนดจัดขึ้นต่อในอีก 6 เดือนข้างหน้า เพื่อแสวงหาทางสร้างสันติภาพในซีเรีย ที่เผชิญสงครามยืดเยื้อมาเกือบ 5 ปี
การประชุมเกิดขึ้นขณะที่สถานการณ์กำลังมาถึงทางตัน หลังการประชุมก่อนหน้านี้ 2 ครั้งไม่ประสบผลสำเร็จในการคลี่คลายวิกฤตทางการเมืองระหว่างกองกำลังสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรีย และกองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ท่ามกลางการปะทะกับกลุ่มก่อการร้ายต่างๆ เช่น กลุ่มรัฐอิสลาม (IS) และกลุ่มอัล-นุสรา
ด้านนายซาเลม อัล-เมสเลต โฆษกฝ่ายต่อต้านเปิดเผยว่า "เรามาเพื่อหารือกับทูตพิเศษตามที่ระบุไว้ใน Security Council resolution 2254 ผมเชื่อว่า เราได้รับสาส์นตอบรับที่ดีจากทูตพิเศษ และในวันพรุ่งนี้ ทูตพิเศษจะประชุมร่วมกับฝั่งรัฐบาล ขณะที่เราจะรอคำตอบจากเขา"
สิ่งที่ HNC ให้ความสำคัญเป็นพิเศษคือเงื่อนไขเบื้องต้นต่างๆ ที่ประกอบด้วย การยุติการปิดล้อม การหยุดยิงโจมตี และการปล่อยตัวนักโทษ
นายเดอ มิสทูราย้ำว่า ที่ประชุม ณ กรุงเวียนนาเมื่อปีที่แล้วได้เรียกร้องให้มีการหารือว่าด้วยการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง ควบคู่ไปกับการเริ่มเจรจา แม้จะเป็นเพียงการหารือแค่ในระดับกลุ่มสนับสนุนซีเรียนานาชาติ (International Syria Support Group - ISSG)
ทูตยูเอ็นกล่าวว่า "ชาวซีเรียอยากให้ทุกคนที่มีอิทธิพลต่อความขัดแย้งครั้งนี้ ได้เล็งเห็นอย่างแท้จริงระหว่างการเจรจาว่ามีความก้าวหน้าเพิ่มเติม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า การเจรจานี้ไม่ใช่การแค่พูดคุยเท่านั้น แต่เป็นการหารือเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงด้วย"
ส่วนการประชุมร่วมกับตัวแทนฝ่ายต่อต้านในวันนี้ เกิดขึ้นหลังการเจรจากับรัฐบาลซีเรียเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
การเจรจาข้างเคียงตามที่ได้กำหนดไว้นั้น ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการปกครอง การเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ และการจัดการเลือกตั้งเท่านั้น แต่ยังจัดขึ้นเพื่อหาทางปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง เพื่อเอื้อต่อการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม และความเป็นไปได้ในการยุติการคุกคามจากกลุ่ม IS
ทั้งนี้ รายงานคาดการณ์ว่าประชาชนซีเรีย 250,000 คนเสียชีวิตในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้ นับตั้งแต่สงครามได้เริ่มต้นขึ้น และประชาชนกว่า 4 ล้านคนได้อพยพย้ายถิ่นฐานออกจากซีเรียอันเนื่องมาจากผลจากความรุนแรงที่ยือเยื้อ
ขณะที่ประชาชนอีก 6.5 ล้านคนโยกย้ายที่อยู่ภายในประเทศเนื่องจากความขัดแย้ง และประชาชน 13.5 ล้านคนภายในประเทศจำเป็นต้องการความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน สำนักข่าวซินหัวรายงาน