มาตรการกระตุ้นชุดใหม่ ซึ่งรวมถึงการเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านการคลังมากกว่าที่กำหนดไว้ในเบื้องต้น มีขึ้น 3 สัปดาห์หลังจากที่นายยู อิล-โฮ รัฐมนตรีคลังคนใหม่เข้าดำรงตำแหน่ง
มาตรการดังกล่าวรวมไปถึงการเพิ่มค่าใช้จ่ายของรัฐบาลและนโยบายการกู้เงินมากกว่า 21.5 ล้านล้านวอน (1.8 หมื่นล้านดอลลาร์) ในระหว่างเดือนม.ค.-มี.ค.
การใช้จ่ายด้านการคลังของทั้งรัฐบาลกลางและหน่วยงานรัฐบาลในระดับเทศบาลจะเพิ่มขึ้นอีก 6 ล้านล้านวอนในไตรมาสดังกล่าว แตะที่ 144 ล้านล้านวอน
รัฐบาลเกาหลีใต้คาดว่า มาตรการดังกล่าวจะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก 0.2% ในปีนี้
ธนาคารต่างๆซึ่งตอบสนองนโยบายเงินกู้ของรัฐบาลจำนวน 8 แห่ง ซึ่งรวมถึงโคเรีย ดีเวลล็อปเมนท์ แบงก์ และอินดัสเตรียล แบงก์ ออฟ โคเรีย มีแผนจะเพิ่มวงเงินสินเชื่อนโยบายอีก 15.5 ล้านล้านวอนในระหว่างไตรมาส โดยมีเป้าหมายยอดปล่อยเงินกู้ทั้งหมดที่ 115.9 ล้านล้านวอน ณ สิ้นเดือนมี.ค.
การลงทุนจากบริษัทพลังงานของรัฐบาล ซึ่งรวมถึงโคเรีย อิเล็กทริก พาวเวอร์ คอร์ป จะเพิ่มขึ้นจาก 4 เป็น 5 ล้านล้านวอนในระหว่างไตรมาส
แผนการกระตุ้นดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐและจีน ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็น 2 อันดับแรกของโลกว่า เศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้จะเพิ่มความเสี่ยงช่วงขาลงให้กับประเทศตลาดเกิดใหม่ สำนักข่าวซินหัวรายงาน